ธุรกิจการตลาด

WHA ชี้อยากเห็นจุดยืนประเทศไทยอยู่ตรงไหนในเวทีโลกแต่เห็นด้วยหลายนโยบาย

24 พ.ค. 66
WHA ชี้อยากเห็นจุดยืนประเทศไทยอยู่ตรงไหนในเวทีโลกแต่เห็นด้วยหลายนโยบาย
ไฮไลท์ Highlight

“ เห็นด้วยกับนโยบายหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องการปฎิรูปที่ดิน การลดความเหลื่อมล้ำ การปฎิรูปราชการ การปฎิรูประบบการศึกษา แต่ยังไม่เห็นภาพชัดๆ ว่า ภาพประเทศไทยมีจุดยืนอยู่ตรงไหนในโลกนี้ เราต้องดึง Strategy ขึ้นมาให้เห็นภาพชัด ซึ่งยังไม่เห็นภาพนี้ใน MOU ครั้งนี้” 

ภาพการจัดตั้งรัฐบาลเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น หลังจากได้มีการเซ็น MOU หรือ บันทึกความเข้าใจร่วมกันในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ที่มีพรรคก้าวไกลเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เมื่อ 22 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการลงนามในวันที่ครบรอบ 9 ปีของการรัฐประหาร 2557

โดยใน MOU มีทั้งหมด 23 ข้อ และแนวทางปฎิบัติร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาลในการบริหารประเทศนั้น

วันนี้ SPOTLIGHT จะพามาฟังเสียงสะท้อนของนักธุรกิจว่า มีมุมมองใน MOU ฉบับนี้อย่างไรบ้าง

โดยคุณจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA กล่าวกับ ‘SPOTLIGHT’ ถึงการเซ็น MOU กับพรรคร่วมรัฐบาลนั้น

การเซ็น MOU ดังกล่าว เป็นเพียงหลักการทั่วๆ ไป ซึ่งก็เห็นด้วยกับนโยบายหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องการปฎิรูปที่ดิน การลดความเหลื่อมล้ำ การปฎิรูปราชการ การปฎิรูประบบการศึกษา นโยบายต่างประเทศ

สำหรับนโยบายเรื่องการจัดสรรที่ดินมองว่าเป็นการปฏิรูปที่ดิน เพื่อกระจายที่ดินให้กับประชาชน น่าจะเป็นภาคการเกษตร ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ส่วนนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ เหมือนเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนทั่วไปอย่างเป็นธรรม แต่ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมเองมองว่า บุคคลากรในภาคอุตหสากรรมต้องมีการ upskill-reskill เพื่อเพิ่มขีดความสามารถที่จะสามารถแข่งขันกับเวทีตลาดโลกได้

ขณะที่เรื่องการปฎิรูประบบราชการ ประเด็นนี้เห็นด้วยมองว่าควรจะมีการปฎิรูประบบข้าราชการมานานแล้ว ส่วนเรื่องการปฎิรูประบบการศึกษาไทย เรื่องนี้ต้องทำอย่างยิ่ง ขณะที่นโยบายต่างประเทศที่ออกมาขณะนี้ เป็นการรักษาสมดุลระหว่างประเทศ และมองว่าห้ามเลือกข้าง

โดย MOU ดังกล่าว ยังไม่เห็นภาพชัดเจนว่า จุดเด่น หรือจุดยืนของประเทศไทยในเวทีโลก จะอยู่ที่ตรงไหน ซึ่งต้องดึง Strategy ขึ้นมาให้เห็นภาพชัดขึ้น ไทยจะมีจุดยืนในภาคเศรษฐกิจอย่างไร จะเด่นไปในเรื่องการท่องเที่ยว อุตสาหกรรม หรือสาธารณสุข ควรที่จะมีจุดยืนในภาพใหญ่ของประเทศด้วย

อย่างไรก็ตาม ต่อจาก MOU นี้ คงต้องรอดูในทางปฎิบัติว่า ใครจะเข้ามานั่งเป็นรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง และจะขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจไปในทิศทางไหน คงจะเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น

“ เห็นด้วยกับนโยบายหลายๆ อย่าง ทั้งเรื่องการปฎิรูปที่ดิน การลดความเหลื่อมล้ำ การปฎิรูปราชการ การปฎิรูประบบการศึกษา แต่ยังไม่เห็นภาพชัดๆ ว่า ภาพประเทศไทยมีจุดยืนอยู่ตรงไหนในโลกนี้ เราต้องดึง Strategy ขึ้นมาให้เห็นภาพชัด ซึ่งยังไม่เห็นภาพนี้ใน MOU ครั้งนี้”   คุณจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA

สำหรับ MOU ที่ประกาศจัดตั้งรัฐบาลร่วมกัน มีดังนี้

  1. การฟื้นฟูประชาธิปไตย รวมถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประชาชนให้เร็วที่สุด โดยมีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน
  2. เพื่อสร้างความสมานฉันท์ในสังคม ทุกพรรคจะร่วมผลักดันการอำนวยความยุติธรรมในคดีที่เกี่ยวข้องกับ การแสดงออกทางการเมืองผ่านกลไกของรัฐสภา
  3. ยืนยันและผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียม เพื่อรับประกันสิทธิสมรสสำหรับคู่รักทุกเพศ โดยจะไม่บังคับ ประชาชนที่เห็นว่าขัดแย้งกับหลักการของศาสนาที่ตนเองนับถือ
  4. ผลักดันการปฏิรูประบบราชการ ตำรวจ กองทัพ และกระบวนการยุติธรรม ให้สอดคล้องกับหลัก ประชาธิปไตย โดยยึดหลักความโปร่งใส ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และผลประโยชน์สูงสุดของประชาชน
  5. เปลี่ยนการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ เป็นระบบสมัครใจ
  6. ร่วมผลักดันกระบวนการสร้างสันติภาพอย่างยั่งยืนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยคำนึงถึงหลักการ ด้านสิทธิมนุษยชน การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน รวมถึงทบทวนภารกิจของหน่วยงานและการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับความมั่นคง
  7. ผลักดันการกระจายอำนาจทั้งในแง่ภารกิจและงบประมาณ เพื่อให้ท้องถิ่นตอบสนองความต้องการของ ประชาชนในพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม มีประสิทธิภาพ ปราศจากการทุจริต
  8. แก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันโดยการสร้างระบบและวัฒนธรรมรัฐโปร่งใส เปิดเผยข้อมูลรัฐในทุ หน่วยงาน
  9. ร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจ โดยยึดหลักเพิ่มรายได้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างระบบเศรษฐกิจที่เติบโต อย่างเป็นธรรม
  10. ยกเครื่องกฎหมายเกี่ยวกับการทำมาหากิน และการดำรงชีวิตของประชาชน เช่น ตัด ลด หรือพักใช้ ชั่วคราวซึ่งใบอนุมัติ อนุญาตที่ไม่จำเป็นและเป็นอุปสรรคเพื่อปรับปรุงใหม่ ให้ความช่วยเหลือสภาพคล่อง ทางด้านการเงินและสร้างแต้มต่อให้กับ SME พร้อมกับมุ่งเน้นการเติบโต GDP ของ SME สนับสนุน อุตสาหกรรม และสินค้าไทยให้มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้
  11. ยกเลิกการผูกขาดและส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรมในทุกอุตสาหกรรม เช่น เครื่องดื่ม แอลกอฮอล์
  12. ปฏิรูปที่ดินทั้งระบบ ด้วยการผลักดันกฎหมายปฏิรูปที่ดิน กระจายการถือครองที่ดินอย่างเป็นธรรม แก้ปัญหาแนวเขตป่าไม้และที่ดินของรัฐที่ทับซ้อนกับที่ดินของประชาชน รวมถึงการทบทวนคดีที่เป็นผล จากนโยบายทวงคืนผืนป่า
  13. ปรับปรุงโครงสร้างการผลิตไฟฟ้า การคำนวณราคา และกำลังการผลิตที่เหมาะสม เพื่อลดค่าครองชีพ ประชาชนและสร้างความมั่นคงทางพลังงาน
  14. จัดทำงบประมาณแบบใหม่ โดยเน้นใช้วิธีการจัดงบประมาณฐานศูนย์ (Zero-based budgeting)
  15. สร้างระบบสวัสดิการดูแลประชาชนตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงวัย โดยคำนึงถึงความเหมาะสมและภาระ ทางการคลังระยะยาว
  16. แก้ไขปัญหายาเสพติด โดยเร่งด่วน
  17. นำกัญชากลับไปอยู่ในบัญชียาเสพติดให้โทษ โดยมีกฎหมายควบคุมและรองรับการใช้ประโยชน์จากกัญชา
  18. ส่งเสริมเกษตรและปศุสัตว์ปลอดภัย คุ้มครอง รักษาผลประโยชน์ของเกษตรกร ลดต้นทุนการผลิต ส่งเสริมการตลาด ส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยี และแหล่งน้ำ ส่งเสริมการรวมกลุ่มของเกษตรกรเพื่อวางแผนการผลิตและรักษาผลประโยชน์เกษตรกร ส่งเสริมอุตสาหกรรมแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรเพื่อให้ เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ
  19. แก้ไขกฎหมายประมง ขจัดอุปสรรค เยียวยา ฟื้นฟู และพัฒนาอาชีพประมงให้ยั่งยืน
  20. ยกระดับสิทธิแรงงานทุกอาชีพให้มีสภาพการจ้างงานที่เป็นธรรม และได้รับค่าแรงที่เป็นธรรมสอดคล้อง กับค่าครองชีพและการเติบโตทางเศรษฐกิจ
  21. ปฏิรูประบบการศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพ ลดความเหลื่อมล้ำ และส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
  22. สร้างความร่วมมือและกลไกภายในและระหว่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นพิษ รวมถึงการลดการปล่อย ก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero) โดยเร็วที่สุด
  23. ดำเนินการนโยบายการต่างประเทศ โดยการฟื้นฟูบทบาทผู้นำของ อาเซียน และรักษาสมดุล การเมืองระหว่างประเทศของไทยกับประเทศมหาอำนาจ

สำหรับแนวทางการบริหารประเทศที่มีแนวปฎิบัติร่วมกันที่ทุกพรรคเห็นพ้องกัน ดังต่อไปนี้

  1. ทุกพรรคจะคุ้มครองสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของประชาชนทุกคน 
  2. ทุกพรรคจะทํางานโดยซื่อสัตย์สุจริต หากมีบุคคลของพรรคใดมีพฤติกรรมทุจริต คอร์รัปชัน ทุกพรรคจะ ยุติการดำรงตำแหน่งของบุคคลนั้นๆ ทันที
  3. ทุกพรรคจะทำงานโดยให้เกียรติซึ่งกันและกัน จริงใจต่อกัน สนับสนุนการทำงานซึ่งกันและกัน โดยยึดถือ ผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง มากกว่าผลประโยชน์ของพรรคใดพรรคหนึ่ง
  4. ทุกพรรคมีสิทธิในการผลักดันนโยบายอื่นเพิ่มเติม แต่ไม่ขัดแย้งจากนโยบายในบันทึกข้อตกลงร่วมฉบับนี้ โดยอาศัยอ้านาจฝ่ายบริหารของรัฐมนตรีที่เป็นตัวแทนของแต่ละพรรคการเมือง
  5. ทุกพรรคมีสิทธิในการผลักดันนโยบายอื่นเพิ่มเติม แต่ไม่ขัดแย้งจากนโยบายในบันทึกข้อตกลงร่วมฉบับนี้ โดยอาศัยอำนาจนิติบัญญัติของผู้แทนราษฎรที่สังกัดแต่ละพรรคการเมือง

advertisement

SPOTLIGHT