‘อีแจยง’ ซีอีโอของซัมซุงเข้าพบกับ ‘อีลอน มัสก์’ ซีอีโอของเทสลาในระหว่างเดินทางเยือนสหรัฐฯ เมื่อวันพุธในสัปดาห์ที่ผ่านมาที่ศูนย์วิจัยเซมิคอนดักเตอร์ของซัมซุงในซิลิคอนวัลเลย์
จากการคาดการณ์ของสื่อเกาหลีใต้ ทั้งสองผู้บริหารน่าจะหาร่วมหารือกันเพื่อผลิตชิปแบบใหม่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าของเทสลา และพัฒนาระบบ ‘ไร้คนขับ’ ของรถยนต์เทสลาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งนี่เป็นเพราะอุตสาหกรรมผลิตชิปเซ็ตหรือเซมิคอนดักเตอร์สำหรับรถยนต์เป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วจากการที่รถยนต์ไฟฟ้าได้รับความนิยม และถูกนำไปใช้เป็นที่แพร่หลายมากยิ่งขึ้น
โดยจากการศึกษาบริษัทที่ปรึกษาด้านธุรกิจ Strategic Analytics และ Research & Markets อุตสาหกรรมชิปเซ็ตสำหรับรถยนต์จะเพิ่มขึ้นเป็น 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2024 และขึ้นไปเป็น 7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2028
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่อุตสาหกรรมนี้กำลังเติบโตขึ้นอย่างมาก ซัมซุงจึงมีคู่แข่งที่จ้องจะเข้ามาเป็นผู้ผลิตชิปรถยนต์ให้ เทสลาเป็นจำนวนมาก รวมไปถึง Taiwan Semiconductor Manufacturing Co. หรือ TSMC ผู้ผลิตชิปเซ็ตที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากไต้หวัน ที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตชิปเซ็ตขนาดเล็ก 4 และ 5 นาโนเมตร
โดยในปัจจุบัน ซัมซุงถือว่าเป็นบริษัทหนึ่งที่มีบทบาทสูงในอุตสาหกรรมผลิตชิป และผู้ผลิต Memory Chip หรือ DRAM ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นชิปเซ็ตประมวลผลที่ใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์แล็บท็อป ที่ในปี 2021 มีส่วนแบ่งตลาดถึง 43.6%
ซัมซุงทุ่มเงิน 7.4 พันล้านบาท ตั้งศูนย์พัฒนาชิปในญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ซัมซุงยังได้ประกาศสร้างศูนย์พัฒนาชิปเซ็ตในประเทศญี่ปุ่น โดยซัมซุงจะลงทุนเงินถึง 3 หมื่นล้านเยน หรือราว 7.4 พันล้านบาทเพื่อสร้างศูนย์ดังกล่าวในเมืองโยโกฮามา ซึ่งเป็นเมืองที่มีศูนย์วิจัยและพัฒนาของซัมซุงตั้งอยู่แล้ว
จากการรายงานของ Nikkei Asia ความร่วมมือนี้จะอาศัยความเชี่ยวชาญของทั้งสองประเทศ คือ หนึ่งความเชี่ยวชาญด้านการผลิตชิปเซ็ตของเกาหลีใต้ และความเชี่ยวชาญในการผลิตส่วนประกอบและอุปกรณ์ในการผลิตชิปเซ็ตของญี่ปุ่น โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างสายพานการผลิตสำหรับ ‘ชิปแบบใหม่’ ที่ทางซัมซุงยังไม่ได้เปิดเผยว่าจะเป็นชิปสำหรับอะไร
Nikkei Asia รายงานว่าศูนย์ดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2025 และจะเพิ่มการจ้างงานให้แก่พนักงานหลายร้อยคนในญี่ปุ่น และคาดว่าซัมซุงจะได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นมูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านเยนเพื่อตั้งศูนย์พํฒนาชิปดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ซัมซุงไม่ใช้ผู้ผลิตชิปเจ้าเดียวที่เข้าไปลงทุนในญี่ปุ่น เพราะในขณะนี้รัฐบาลญี่ปุ่นได้มีความพยายามที่จะกลับเป็นผู้เล่นสำคัญในอุตสาหกรรมชิปเซ็ตอีกครั้ง ด้วยการออกเงินสนับสนุนดึงการลงทุนจากบริษัทผลิตชิปเซ็ตใหญ่ๆ เข้าไปทำธุรกิจในประเทศ
โดยจากการรายงานของสื่อญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่นสามารถดึงบริษัทชิปเซ็ตหลายแห่งเข้าไปเข้าไปตั้งฐานการผลิตในประเทศได้แล้ว ทั้ง TSMC และ Micron Technology จากสหรัฐฯ
ที่มา: ฺBloomberg, Nikkei Asia