นักการเมืองอเมริกันกำลังผลักดันแผนการที่จะแบนแอป TikTok ในสหรัฐฯ อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาแค่สองวันในการเสนอกฎหมายนี้เข้าสภา และคาดว่าจะมีการลงคะแนนเสียงภายในสัปดาห์หน้า ทำเนียบขาวก็บอกว่าประธานาธิบดีไบเดนพร้อมลงนามเพื่อให้กฎหมายนี้มีผลบังคับใช้ แต่คำถาม คือ การแบน TikTok จะเกิดขึ้นได้จริงไหม? เพราะเวลานี้ TikTok ในอเมริกันมีผู้ใช้งานมากถึง 170 ล้านคน
สหรัฐอเมริกาจ่อแบน TikTok เหตุเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ
จากรายงานของทาง CNN ระบุว่า คณะกรรมการพลังงานและพาณิชย์ของสภาผู้แทนราษฎร สหรัฐฯ ได้อนุมัติร่างกฎหมายที่จะแบนแอป TikTok บนมือถือ แท็บเล็ต และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการท้าทายแอปโซเชียลมีเดียยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของโลกอีกครั้ง ร่างกฎหมายนี้เกิดขึ้นจากความกังวลว่ารัฐบาลจีนอาจใช้ TikTok เพื่อสอดแนมผู้ใช้ชาวอเมริกัน
ถ้ากฎหมายนี้ผ่านการอนุมัติ TikTok จะมีเวลาประมาณ 5 เดือนในการแยกตัวออกมาจาก "ไบท์แดนซ์" ซึ่งเป็นบริษัทแม่ที่อยู่ในจีน ถ้าไม่แยกตัว ร้านค้าขายแอปในอเมริกาจะถูกห้ามไม่ให้มี TikTok บนแพลตฟอร์มของตัวเอง กฎหมายไม่ได้หยุดแค่ TikTok แต่รวมถึงแอปอื่นใดที่ถูกมองว่าอยู่ภายใต้การควบคุมของประเทศคู่แข่ง อย่างเช่น จีน อิหร่าน รัสเซีย หรือเกาหลีเหนือด้วย ประธานาธิบดีไบเดน หรือประธานาธิบดีในอนาคต สามารถใช้กฎหมายนี้ในการชี้แอปที่ควรจะถูกแบนด้วย
ร้านค้าขายแอปที่ฝ่าฝืนกฎหมายนี้ อาจจะโดนปรับเงินตามจำนวนผู้ใช้แอปที่ถูกแบน ซึ่งกฎหมายตั้งค่าปรับไว้ที่ $5,000 ต่อผู้ใช้หนึ่งคน กรณีของ TikTok นั่นหมายความว่า Apple กับ Google อาจจะโดนปรับสูงถึง $850 พันล้านดอลล่าร์เลยทีเดียว คณะกรรมการด้านพลังงานและการค้าของสภาได้ลงคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ให้กฎหมายนี้ผ่านไปแล้ว และคาดว่าจะได้รับลงคะแนนจากรัฐสภา ในสัปดาห์นี้ และไบเดน กล่าวว่า จะลงนามในร่างกฎหมรายดังกล่าว เมื่อได้ผ่านการอนุมัติ จากรัฐสภา และวุฒิสภา
ทำไมต้องจัดการ TikTok
จากเหตุการณ์ข้อกล่าวหา คือ TikTok เป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ เพราะรัฐบาลจีนอาจจะใช้กฎหมายด้านข่าวกรองบังคับให้ "ไบท์แดนซ์" ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ TikTok ส่งข้อมูลของผู้ใช้ในสหรัฐฯ ให้ทางการจีนได้ นักการเมือง กลัวว่า ข้อมูลนี้อาจถูกนำไปใช้ค้นหาเป้าหมายเพื่อจารกรรมข้อมูล หรือเป็นเครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อหรือปล่อยข่าวปลอม
จนถึงขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังไม่เคยเปิดเผยหลักฐานใดๆ ว่าจีนเข้าถึงข้อมูลของคนใช้ TikTok ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์บอกว่ามันเป็นแค่ "ความเป็นไปได้" แต่นั่นก็เป็นความเสี่ยงที่น่ากังวลมาก
ความเคลื่อนไหว ฝั่ง TikTok
ในเวลานี้ฝั่ง TikTok มองว่า กฎหมายนี้เป็นการละเมิดสิทธิในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญของผู้ใช้แอป TikTok จึงเปิดตัวแคมเปญในแอปของตัวเอง กระตุ้นให้ผู้ใช้ติดต่อตัวแทนในสภาที่วอชิงตัน เพื่อคัดค้านร่างกฎหมาย หลายสำนักงานในสภาบอกว่าได้รับสายโทรศัพท์เข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยทาง TikTok ให้สัมภาษณ์ว่า "รัฐบาลกำลังพยายามจะพรากสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญของชาวอเมริกันถึง 170 ล้านคน สิ่งนี้จะทำลายธุรกิจหลายล้านแห่ง พรากผู้ชมจากเหล่าศิลปิน และลบช่องทางทำมาหากินของครีเอเตอร์มากมายทั่วประเทศ"
ทรัมป์ออกมาคัดค้านการแบน TikTok ?
สิ่งที่น่าแปลกใจ คือ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ออกมาคัดค้านการแบน TikTok โดยโพสต์ใน Truth Social ว่าการแบนแอปฯ นี้จะยิ่งทำให้ Facebook และ Mark Zuckerberg (CEO ของบริษัท Meta ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Facebook) มีอำนาจมากกว่าเดิม ซึ่งถือเป็น "ศัตรูของประชาชนอย่างแท้จริง!"
เนื่องจากในขณะที่ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ทรัมป์ใช้คำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับเพื่อบีบให้ ByteDance (บริษัทจีนเจ้าของ TikTok) ขาย TikTok และสั่งห้ามไม่ให้ร้านค้าแอปฯ เปิดให้ดาวน์โหลด TikTok ได้ ความพยายามของเขาชะงักเนื่องจากมีการฟ้องร้องโต้แย้ง แต่ทรัมป์มีบทบาทสำคัญที่ทำให้ TikTok กลายเป็นปัญหาในช่วงแรก โดยเชื่อมโยงแอปฯ นี้กับนโยบายต่อต้านจีนที่รวมถึงสงครามการค้าและการโจมตีจีนด้วยคำพูดรุนแรง ซึ่งยิ่งเพิ่มความกังวลเรื่องการแสดงความเกลียดชังชาวเอเชีย
ล่าสุดเวลานี้ยังไม่ชัดเจนว่าทำไมทรัมป์ถึงเปลี่ยนจุดยืนเรื่อง TikTok แบบกะทันหัน ทรัมป์กำลังจะเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และอาจจะต้องแข่งกับไบเดนอีกครั้งในการเลือกตั้งพฤศจิกายนนี้
ที่มา CNN