BYD ประกาศวิสัยทัศน์ช่วยโลกลดอุณหภูมิ 1 องศา ตั้งเป้าเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าชั้นนำของโลก ชี้ตลาดอาเซียนศักยภาพสูง พร้อมเดินหน้าตั้งฐานการผลิตและขยายตลาดในไทยต่อ โดยพบว่าได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลูกค้าชาวไทย ยอดขายอันดับหนึ่งต่อเนื่อง ปัจจุบันครองตลาดรถยนต์ไฟฟ้าถึง 40% ในไทย
นายหลิว เสวียเลี่ยง ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก บริษัท บีวายดี ออโต้ อินดัสทรี จำกัด ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากประเทศจีน กล่าวว่า เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา บีวายดีได้นำเอารถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ รถอีวี เข้ามาจำหน่ายในไทยเป็นรุ่นแรก และสร้างปรากฏการณ์มีผู้สนใจสั่งจองซื้อรถยนต์กันเป็นจำนวนมาก
จากตัวเลขเมื่อเดือนกันยายน 2566 ที่ผ่านมาพบว่า บีวายดี มีส่วนแบ่งตลาดถึง 40% ของกลุ่มรถยนต์อีวีที่จำหน่ายในไทย และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2021 บีวายดีได้ผลิตและจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าไปถึง 1.86 ล้านคัน และมีตลาดจัดจำหน่ายสินค้าครอบคลุมถึง 20 ประเทศทั่วโลก
รถยนต์ไฟฟ้าสร้างงานสร้างอาชีพ ชี้ทุกส่วนในซัพพลายเชนมีโอกาส
บีวายดี มองว่าการเข้ามาของรถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นการปฏิวัติวงการอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างแท้จริง เพราะไม่เพียงแต่จะเข้ามาสร้างประโยชน์ให้กับผู้ผลิตรถยนต์เท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมซัพพลายเชนอื่นๆ ด้วย เพราะในอนาคตรถยนต์จะไม่ใช่เพียงยานพาหนะในการเดินทางเท่านั้น แต่จะยังสามารถเป็นสตูดิโอส่วนตัว เป็นห้องนั่งเล่น หรือศูนย์รวมความบันเทิงต่างๆ ด้วยจากการนำซอฟต์แวร์ เอไอ และระบบเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาบริการความสะดวกให้กับผู้ใช้ในรถ
นายหลิวมองว่า บทบาทของรถยนต์ที่เปลี่ยนไปนี้นับเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการในทุกอุตสาหกรรม ที่จะต้องคิดและเตรียมพร้อมในการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาแอปหรือซอฟต์แวร์มาพัฒนาการขับขี่ให้ดีขึ้นได้ หรือแม้แต่ประชาชนรายย่อยที่อาจกระโดดเข้ามาทำธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้ได้ด้วยการตั้งจุดชาร์จ หรือธุรกิจรอบๆ จุดชาร์จ
ในข้อนี้ นายหลิวได้ให้ข้อสังเกตไว้อย่างน่าสนใจว่า ในปัจจุบัน การชาร์จไฟของรถยนต์ไฟฟ้ามีความแตกต่างจากการเติมน้ำมันในปั๊มธรรมดา เพราะขณะที่การเติมน้ำมันใช้เวลาไม่นาน การชาร์จไฟของรถยนต์ไฟฟ้ากลับใช้เวลานานกว่ามากคือประมาณ 15-30 นาที ทำให้การตั้งธุรกิจ เช่น ร้านค้า หรือร้านกาแฟ ภายในบริเวณโดยรอบจุดชาร์จก็อาจเป็นโอกาสในการทำธุรกิจที่ดีสำหรับประชาชนทั่วไปได้
มุ่งมั่นพัฒนารถยนต์ดีต่อโลกเพื่อคนรุ่นหลัง
ทั้งนี้ บีวายดี มองว่า นอกจากผลประโยชน์ทางธุรกิจและเศรษฐกิจแล้ว อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้ายังจะมีส่วนช่วยสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อมของโลกให้แก่อนุชนคนรุ่นหลัง และช่วยให้ทุกคนสามารถปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้ดีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นได้
โดยนายหลิว กล่าวว่า บีวายดีมีวิสัยทัศน์ที่ต้องการจะช่วยโลกในการลดอุณหภูมิลงให้ได้ 1 องศาเซลเซียส จากการผลักดันให้มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในทุกภาคส่วนและอุตสาหกรรม ซึ่งจะช่วยปรับสมดุลของสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน และหวังว่าจากการขับเคลื่อนร่วมกันของทุกฝ่ายจะทำให้สามารถมุ่งสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้ในอนาคต โดยเฉพาะทุกภาคส่วนในประเทศอาเซียน รวมไปถึงประเทศไทยที่ปัจจุบันเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่สำคัญของบีวายดี
นายหลิวมองว่าในภูมิภาคอาเซียนนั้นมีศักยภาพในการเติบโตทางเศรษฐกิจสูง ที่จะแซงหน้าญี่ปุ่นและอินเดีย จนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกได้
ดังนั้น บีวายดีจึงได้เข้ามาสร้างฐานการผลิตในประเทศไทยตั้งแต่ปีที่ผ่านมา และก็ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรที่สำคัญ ทั้งจากภาคการเงิน อย่างธนาคารกรุงเทพ และภาคอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถยนต์อีวีในไทยให้เติบโตได้อย่างรวดเร็ว