Grab บริษัทให้บริการแพลตฟอร์มสั่งอาหารและรับส่งคนและสินค้าจากสิงคโปร์ โชว์ผลประกอบการไตรมาสที่ 2 สำหรับปี 2023 พบรายได้เพิ่มขึ้น 77% และขาดทุนน้อยลงจากช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า คาดแตะระดับเท่าทุนได้ภายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ เร็วกว่าที่คาด 1 ไตรมาส
เมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) Grab รายงานว่าในไตรมาสที่ 2 (สิ้นสุด 30 มิ.ย. 2023) บริษัทสามารถสร้างรายได้ได้ทั้งหมด 567 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.97 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% จากไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 ในขณะที่ผลขาดทุนลดลงจาก ติดลบ 572 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็น ติดลบ 148 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
Grab รายงานว่า ผลประกอบการที่ดีขึ้นนี้เป็นผลมาจากการที่บริษัทมี ตัวเลขการซื้อสินค้าและบริการ (GMV) หรือมูลค่าสั่งซื้อสินค้ารวมบนแพลตฟอร์ม มากขึ้นแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ เกิดจากการที่ Grab เริ่มปรับราคาและเพื่อบริการ เช่น GrabUnlimited ที่ทำให้ค่าส่งลดลง และเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นสำหรับคนทั่วไป
โดยเมื่อแบ่งสัดส่วนรายได้ของ Grab ออกมา จะพบว่า รายได้จากการส่งสินค้าคิดเป็นสัดส่วนสูงที่สุดที่ 292 ล้านดอลลาร์สหรัฐ รองลงมาเป็นรายได้จากการให้บริษัทเรียกรถ เช่ารถ ขนส่งคนซึ่งอยู่ที่ 208 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรายได้จากการให้บริการทางการเงิน ซึ่งอยู่ที่ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้ Grab ยังได้มีการปรับลดค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าแรงพนักงานด้วยการ ‘เลย์ออฟ’ โดยตั้งแต่ปีที่ผ่านมาจนถึงปลายเดือนมิถุนายน Grab เลย์ออฟพนักงานไปแล้วประมาณ 1,000 คน หรือราว 11% ของจำนวนพนักงานทั้งหมด
การเลิกจ้างพนักงานช่วยลดต้นทุน และลดค่าใช้จ่ายสำหรับพนักงานของ Grab ได้ถึง 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า และ 13% จากไตรมาสก่อนหน้า
บริการ GrabUnlimited เป็นบริการ subscription ใหม่ของ Grab ที่ให้ผู้สมัครจ่ายเงินรายเดือน เพื่อแลกกับส่วนลดค่าส่ง และค่าใช้บริการรถขนส่งภายในแอฟพลิเคชั่น ซึ่งเมื่อเริ่มเปิดให้ใช้ไปแล้ว พบว่า ได้ผลตอบรับที่ดี โดยในไตรมาสที่ 2 มีผู้ใช้เพิ่มขึ้นถึง 43% จากปีก่อนหน้า และ เพิ่มขึ้น 25% จากไตรมาสก่อนหน้า และผู้ใช้กลุ่มนี้สร้าง GMV ด้านการขนส่งให้กับบริษัทถึงเกือบ 1 ในสามของ GMV ทั้งหมดในธุรกิจส่วนนี้
เมื่อเห็นผลตอบรับที่ดี ในอนาคต Grab จึงมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ผู้ใช้หันไปใช้บริการนี้กันมากขึ้น นอกจากนี้ยังมุ่งให้บริการใหม่ๆ เพื่อเพิ่มรายได้ ไม่ว่าจะเป็นบริการแชร์รถ และเช่ารถ
โดยในเดือนกรกฎาคม GrabRentals แผนกดูแลบริการให้เช่ารถของ Grab เพิ่งเข้าซื้อบริษัท Trans-Cab บริษัทดำเนินการบริการรถแท็กซี่ที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของสิงคโปร์ ในดีลมูลค่าถึง 75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ Grab มีส่วนแบ่งตลาดรถขนส่งในประเทศสิงคโปร์มากขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 2 Grab ยังได้ออกบริการใหม่ คือ บริการแชร์รถใน 2 ประเทศ คือ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ทำให้ Grab มีบริการนี้แล้วใน 4 ประเทศ โดยประเทศที่ Grab ได้นำร่องให้บริการนี้ไปก่อนหน้านี้คือ สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอาจจะมีการขยายบริการนี้ไปประเทศอื่นอีกหากได้รับการตอบรับที่ดี
ที่มา: Grab