Clubhouse สื่อสังคมออนไลน์ด้วยเสียง ประกาศปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่เตรียมปลดพนักงานกว่า 50% เพื่อความอยู่รอดของบริษัท ภายหลังพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปหลังจากสภานการณ์โควิด-19 ผู้ใช้งาน Clubhouse ลดลง
พอล เดวิสสัน และโรฮัน เซ็ธ สองผู้ก่อตั้งบริษัทClubhouse ได้ออกมาเปิดเผยถึงข่าวร้ายนี้ว่า การประกาศเลย์ออฟพนักงานในบริษัทนี้เพื่อปรับโครงสร้างทีมให้เล็กลงและถือเป็นการรีเซ็ทบริษัทใหม่ เชื่อว่าจะช่วยให้การทำงานรวดเร็วมากขึ้น และจะเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากขึ้น ด้วยแพลตฟอร์ม Clubhouse 2.0
ผู้บริหารClubhouse ยอมรับว่า จำนวนผู้ใช้งานมีอัตราลดลงอย่างน่าตกใจ หลังสถานการณ์โควิด-19 และคงเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ผู้ใช้งานเข้ามาพูดคุยในแพลตฟอร์มนี้จำนวนมากได้เหมือนเดิม
โฆษกของ Clubhouse ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับจำนวนพนักงานที่ได้รับผลกระทบจากการเลย์ออฟ และไม่ได้ระบุถึงจำนวนพนักงานที่ยังคงทำงานอยู่ แต่เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว พอล เดวิสสัน บอกกับสื่อว่า Clubhouse มีพนักงานเกือบ 100 คน
ทั้งนี้พนักงานที่ถูกเลย์ออฟ ทางบริษัทมีการจ่ายเงินชดเชยให้ รวมถึงยังคงขยายสิทธิสวัสดิการให้เช่น ความคุ้มครองการรักษาพยาบาลต่อเนื่องอีกราว 2-3 เดือนข้างหน้า เป็นต้น
การปลดพนักงานของ Clubhouse ครั้งนี้เกิดขึ้นไม่ถึงหนึ่งปีนับตั้งแต่บริษัทเคยเลย์ออฟพนักงานบางส่วนไปก่อนหน้านี้ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพทีมงาน และกำลังมีการเปิดรับสมัครงานในด้านวิศวกรรม ผลิตภัณฑ์ และการออกแบบอย่างต่อเนื่อง
คลับเฮาส์ ได้เปิดตัวในเดือนมีนาคม 2020 จุดเด่นของแอปพลิเคชั่นที่มีพีเจอร์ผ่านการสร้างห้องสนทนาของใช้งานด้วยเสียงเป็นหลัก ผู้ใช้งานสามารถเลือกห้องที่ตนเองสนใจซึ่งมีทักประเด็นตั้งแต่ การเมือง สังคม เศรษฐกิจ กีฬา หรือ บันเทิง ในช่วงแรกของการเปิดตัวก็เต็มไปด้วยคนดังทุกแวดวงเข้าไปใช้งาน ทำให้จากยอดดาวน์โหลด5แสนครั้งในเดือนพฤจิกายน ปี 2020 เพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านครั้งในเดือนธันวาคม และพุ่งมาเป็น 9.8 ล้านครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 และในเดือนมีนาคม 2021 มีผู้ใช้งานมากกว่า 10 ล้านคนทั่วโลก และเคยมีมูลมากถึง 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ในเวลานั้นบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมาก ต่างออกมาพัฒนาฟีเจอร์ให้คล้ายคลึงกับ Clubhouse เช่น Twitter Spaces, Facebook Live Audio Rooms หรือแม้กระทั้ง Spotify Live แต่ในท้ายที่สุดเมื่อโควิดคลี่คลายลง พฤติกรรมผู้บริโภคก็เริ่มลดความนิยมลงอย่างรวดเร็ว
แม้จะยังไม่ชัดเจนว่า Clubhouse 2.0 จะมีทิศทางอย่างไรต่อไป องค์กรที่ลีนขึ้นจะสามารถไปต่อได้จริงหรือไม่หรือการรับพนักงานใหม่ที่จะเข้ามาพัฒนาเวอร์ชัน 2.0 จะโดนใจผู้บริโภคได้แค่ไหนเราคงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด