สำนักงานข่าว CNN รายงานว่า บริษัทวอลท์ดิสนีย์ ประกาศเลย์ออฟพนักงานกว่า 4,000 ชีวิต ภายในสัปดาห์นี้ เพื่อเพิ่มกระแสเงินสด และปรับลดค่าใช้จ่าย กว่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 1.8 แสนล้านบาท
การปรับลดพนักงานในครั้งนี้ จะส่งผลต่อพนักงาน ESPN สถานีเคบิลทีวีที่เผยแพร่ภาพรายการเกี่ยวกับกีฬา 24 ชั่วโมง และธุรกิจดิสนีย์ เอนเตอร์เทนเมนต์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตภาพยนตร์ รายการทีวี รวมถึงธุรกิจสตรีมมิงของดิสนีย์ และ ดิสนีย์ พาร์ค ซึ่งเป็นสวนสนุก และสถานตากอากาศในเครือวอลต์ดิสนีย์ อย่างไรก็ตาม จะไม่ส่งผลกระทบต่อพนักงานพาร์ทไทม์ที่สวนสนุก และรีสอร์ทของดิสนีย์
ขณะที่บ็อบ ไอเกอร์ ซีอีโอ ของบริษัทวอลท์ดิสนีย์ เปิดเผยว่า อาจมีการเลิกจ้างอีกครั้งเป็นระลอกที่ 3 และอาจเป็นการเลิกจ้างครั้งสุดท้ายของบริษัท ภายในเดือน มิ.ย.- ส.ค. 2023 กว่า 7,000 ตำแหน่ง หรือคิดเป็น 3% ของจำนวนพนักงานทั่วโลก
หากย้อนดูผลประกอบการของ Disney ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2023 ซึ่งสิ้นสุดเดือนธันวาคม 2022 บริษัทมีรายได้ 23,512 ล้านดอลลาร์ กำไรต่อหุ้น 0.99 ดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าออกมาดีกว่าคาด แต่ในการประกาศผลประกอบไตรมาสแรกพบว่า จำนวนผู้สมัครใช้งาน Disney+ ทั้งหมด 161.8 ล้านบัญชี ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงครั้งแรก ท่ามกลางการแข่งขันในธุรกิจสตรีมมิ่ง
ครั้งนั้น ซีอีโอ บ็อบ ไอเกอร์ ได้ประกาศปรับโครงสร้างครั้งที่ 3 ในรอบ 5 ปี ด้วยการเลิกจ้างพนักงาน 7,000 คน เพื่อช่วยประหยัดงบประมาณได้ราว 5,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 184,283 ล้านบาท ซึ่งเมื่อช่วงต้นปี 2023 ดิสนีย์มีพนักงานทั่วโลกประมาณ 190,000 คน โดย 80% เป็นพนักงานประจำ