ธุรกิจการตลาด

Apple ทุ่มปีละ 3.4 หมื่นล้านบาทสร้างหนังฉายโรง หวังโปรโมต Apple TV+

25 มี.ค. 66
Apple ทุ่มปีละ 3.4 หมื่นล้านบาทสร้างหนังฉายโรง หวังโปรโมต Apple TV+

Apple กำลังจะลงทุนปีละ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.4 หมื่นล้านบาท เพื่อสร้างภาพยนตร์ฉายในโรงภาพยนตร์โดยเฉพาะ ต่อยอดความสำเร็จ ‘Coda’เจ้าของรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมปี 2021 สื่อคาดว่าเป็นกลยุทธ์เพื่อโปรโมตธุรกิจสตรีมมิ่ง Apple TV+

นับได้ว่า เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญจุดหนึ่งของ Apple ในฐานะบริษัทเทคโนโลยี ที่กำลังจะเข้าสู่ธุรกิจผลิตคอนเทนต์ และสตรีมมิ่งเต็มตัว โดย Apple ได้สร้าง orginal content เพื่อเผยแพร่ใน Apple TV+ บ้างแล้ว แต่ภาพยนตร์เหล่านี้เป็นภาพยนตร์ที่ฉายในแพลตฟอร์ม Apple TV+ เท่านั้น ทำให้ผู้ชมยังไม่รู้จักคอนเทนต์ของ Apple TV+ อย่างแพร่หลาย

อย่างไรก็ตาม ถ้าหาก Apple สร้างภาพยนตร์เพื่อฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วไป นอกจากจะเป็นการรุกเข้าตลาด เพื่อให้ผู้บริโภครู้จักในฐานะผู้ผลิตภาพยนตร์ ยังเป็นการโปรโมตแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เพื่อจะนำผู้ชมไปหาคอนเทนต์อื่นๆ ที่ไม่ได้ฉายในโรงภาพยนตร์ไปด้วยในตัว 

ในปัจจุบัน Apple มี subscriber อยู่ประมาณ 20-40 ล้านคน ซึ่งถือว่ายังน้อยนิดมากเมื่อเทียบกับ Netflix ที่มีถือ 230.7 ล้านคน ในเดือนมกราคม ปี 2023

Apple เคยประสบความสำเร็จกับการสร้างภาพยนตร์มาแล้วด้วยภาพยนตร์เรื่อง Coda เกี่ยวกับหญิงสาวผู้ใฝ่ฝันจะเป็นนักร้องในครอบครัวคนหูหนวก ที่สร้างประวัติศาสตร์ เป็นภาพยนตร์จากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งเรื่องแรกที่คว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) ในเวทีออสการ์ไปเมื่อปี 2021 ทำให้ Apple ถือเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการสร้างภาพยนตร์คุณภาพดีที่นำเข้าไปฉายในโรงได้ 

021822_apple_academy_award_co

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ได้หมายความว่า Apple จะลงทุนสร้างสตูดิโอเพื่อสร้างภาพยนตร์ แต่ Apple จะใช้วิธีเดียวกับที่ใช้สร้าง Coda คือ ร่วมมือกับสตูดิโอและบริษัทโปรดักชั่นแล้วให้เงินทุนในการสร้างให้กับเรื่องที่ Apple คิดน่ามีศักยภาพ และน่าลงทุน

รายงานของ Variety ภาพยนตร์ที่ Apple จะปล่อยฉายในโรงภาพยนตร์เรื่องต่อไป ก็คือ ‘Killers of the Flower Moon’ ซึ่งสร้างโดยสตูดิโอ Paramount กำกับโดยผู้กำกับชื่อดัง มาร์ติน สกอร์เซซี (Martin Scorsese) และนำแสดงโดยนักแสดงแถวหน้าของฮอลลีวูดอย่าง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ (Leonardo DiCaprio) และ ภาพยนตร์ชื่อ ‘Napoleon’ กำกับโดย ริดลีย์ สก็อต (Ridley Scott) และนำแสดงโดย วาคีน ฟินิกซ์ (Joaquin Phoenix)

 

บริษัทใหญ่บุกธุรกิจสตรีมมิ่ง มุ่งส่งภาพยนตร์นำร่องฉายในโรง

อย่างไรก็ตาม นอกจาก Apple แล้ว อีกบริษัทที่กำลังบุกตลาดสตรีมมิ่งในรูปแบบเดียวกัน ก็คือ Amazon ที่กำลังเร่งลงทุนสร้างภาพยนตร์เพื่อโปรโมตแพลตฟอร์ม Amazon Prime Video เช่นเดียวกัน

โดยปี 2022 Amazon ได้เข้าซื้อกิจการของ Metro-Goldwyn-Mayer หรือ MGM ค่ายผลิตภาพยนตร์เจ้าของแฟรนไชส์ James Bond ทำให้ Amazon แตกต่างจาก Apple ไม่ต้องไปทำงานค่ายผลิตภาพยนตร์หรือสตูดิโออื่น เพราะมีสตูดิโอและบริษัทโปรดักชั่นเป็นของตัวเอง

ขณะที่รายงานของ Techcrunch Amazon มีแผนที่จะลงทุนเงินราวๆ ปีละ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสร้างภาพยนตร์เช่นเดียวกัน และมีแผนที่จะส่งภาพยนตร์ชนโรงปีละ 12-15 เรื่องต่อปี 

ด้านการรายงานของ CNBC การลงมาแข่งกันผลิตภาพยนตร์ป้อนโรงหนังแบบนี้ ทำให้หุ้นของบริษัทโรงหนังในสหรัฐฯ คึกคักเป็นอย่างมาก เพราะสร้างความหวังว่านี่จะทำให้อุตสาหกรรมโรงหนังกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังโควิดทำลูกค้าหายรายได้หด และคนก็ยังไม่กลับมาจากพฤติกรรมดูภาพยนตร์ในสตรีมมิ่ง ซึ่งถ้ามีภาพนตร์น่าสนใจเข้าฉายภายในโรงหนังโดยเฉพาะมากขึ้น ผู้บริโภคก็อาจหันกลับมาหาประสบการณ์การดูหนังในโรงภาพยนตร์มากยิ่งขึ้น

 

ที่มา: Bloomberg, Variety, CNBC 

 

advertisement

SPOTLIGHT