TikTok กำลังจะเข้ามาเป็นแอปพลิเคชั่นยอดนิยมในหมู่วัยรุ่นสหรัฐฯแทนที่ สแนปแชทแล้ว ขณะที่เฟสบุค และ ทวิตเตอร์ยังตามหลังแบบทิ้งห่าง เช่นเดียวกับรายได้จากการโฆษณาของ TikTok มีโอกาสไปถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
อินไซเดอร์ อินเทลลิเจนซ์ (Insider Intelligence) เผยผลการสิจัยพบว่า TikTok ไต่ระดับความนิยมขึ้นมาอย่างมากในหมู่วัยรุ่นขึ้นมาเป็น 33% แซง สแนปแชท ซึ่งอยู่ที่ 31% ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่ TikTok แซงได้สำเร็จ แต่แม้ TikTok จะแอปยอดนิยมมากขึ้น และมีอิทธิพลต่อวัฒนธรรมมากขึ้นก็ตาม การวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างมีส่วนร่วมกับ อินสตราแกรม มากที่สุดอยู่ 89% ตามมาด้วย สแนปแชท 84% และ TikTok 80%
"ความเป็นที่นิยมของ TikTok ควบคู่ไปกับการเป็นแอพ Social commerce มีโอกาสที่จะช่วยผลักดันให้รายได้จากค่าโฆษณาของ TikTok สูงกว่าแอพคู่แข่งได้มากถึง 3 เท่าสู่ 11.64 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสูงกว่ารายได้ของสแนปแชท และ ทวิตเตอร์รวมกัน ทั้งนี้ คาดว่าทวิตเตอร์และสแนปแชทจะกวาดรายได้จากโฆษณาในปี 2565 ไปที่ 5.58 พันล้านดอลลาร์ และ 4.86 พันล้านดอลลาร์ แต่ทั้งหมดนี้คือการคาดการณ์รายได้โฆษณาในเบื้องต้น ซึ่งเชื่อว่า ครึ่งหนึ่งของรายได้โฆษณาหรือราว 6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐมาจากตลาดในสหรัฐอเมริกา "
ในขณะเดียวกัน ปัญหาฝั่งของ เฟสบุค และ ทวิตเตอร์ คือไม่ค่อยดึงดูดความสนใจของฝั่งผู้ใช้วัยทีน โดยผู้ตอบแบบสอบถาม ถึง 31% บอกว่าพวกเขาใช้เฟสบุคเพียงแค่เดือนละครั้งเท่านั้น งานวิจัยคาดการณ์ว่า เฟสบุค จะสูญเสียผู้ใช้งานวัยทีน 1.7 ล้านคน ในช่วงปี2020 ถึง 2025 เหลือผู้ใช้งานอยู่ราว 8 ล้านคน ส่วนทวิตเตอร์ จะสูญเสียผู้ใช้งานวัยทีนประมาณ 2 แสนคน เหลือผู้ใช้งานอยู่ 5.2 ล้านคน
อุปสรรคสำหรับ Meta
การมีส่วนร่วมที่สูงสำหรับผู้ใช้อิสตราแกรมเป็นสิ่งที่ช่วยเมตาไว้ได้ แต่ก็ยังต้องพยามเข้าถึงผู้บริโภควัยทีนอีกเป็นปี ผลการสำรวจยังแสดงให้เห็นอีกว่า การมาของ เมตาเวิร์ส ยังไม่ได้เจาะเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้ เพราะราว 48% บอกว่า ไม่สนใจและไม่แน่ใจเกี่ยวกับเมตาเวิร์ส
บริษัทเกมส์ อย่าง Roblox และ Epic Games กลับกำลังเข้ากันได้ดีกับผู้ใช้วัยรุ่น พวกเขาพยายามองหาประสบการณ์โฆษณาแบบ virtual และยังได้เปรียบจากการเข้าถึงที่ง่าย ด้วยอุปกรณ์ทั้งโทรศัพท์มือถือ และ แทบเล็ท วิสัยทัศน์ของเมตาเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดี แม้ว่าที่ผ่านมาจะพยายามสร้างสรรค์เกมส์ในโซเชี่ยลมีเดีย อย่าง Horizon Worlds ได้ส่วนแบ่งการตลาดแว่น VR ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นราว26% แต่กลับมีเพียง 5% เท่านั้นที่ใช้มัน ซึ่งบ่งบอกว่า เนื้อหา VR ไม่เพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้ แอปโซเชียลมีเดียที่เน้นการมองเห็นจึงสามารถจับกลุ่มวัยรุ่นได้เหนียวแน่นกว่า
การที่ TikTok ทรงอิทธิพลได้ขนาดนี้ ก็ชัดเจนว่า หากแพลตฟอร์มโซเชียลอื่นๆ ต้องการเลียนแบบความสำเร็จ พวกเขาจะต้องค้นหาวิธีสร้างประสบการณ์ส่วนบุคคล สำหรับผู้ใช้งานและให้สอดคล้องกับกฎระเบียบต่างๆ