Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ยอดขายเฟรนช์ฟรายส์ McDonald's ซบเซา กระทบ Lamb Weston จนต้องปิดโรงงาน
โดย : อมรินทร์ทีวีออนไลน์

ยอดขายเฟรนช์ฟรายส์ McDonald's ซบเซา กระทบ Lamb Weston จนต้องปิดโรงงาน

20 ต.ค. 67
11:00 น.
|
1.3K
แชร์

ใครจะไปคิดว่า "เฟรนช์ฟรายส์" เมนูสุดคลาสสิกที่ใครๆ ก็หลงรัก จะกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในแวดวงธุรกิจอาหาร เมื่อยอดขายเฟรนช์ฟรายส์ของ McDonald's เจ้าพ่อฟาสต์ฟู้ด เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว สร้างแรงกระเพื่อมไปถึง Lamb Weston ผู้ผลิตเฟรนช์ฟรายส์แช่แข็งรายใหญ่ จนต้องตัดสินใจปิดโรงงาน และปรับลดพนักงาน สถานการณ์นี้เกิดขึ้นจริงหรือ? อนาคตของเฟรนช์ฟรายส์จะเป็นอย่างไร? ธุรกิจร้านอาหารจะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อย่างไร?

ยอดขายเฟรนช์ฟรายส์ McDonald's ซบเซา กระทบ Lamb Weston จนต้องปิดโรงงาน

ยอดขายเฟรนช์ฟรายส์ McDonald's ซบเซา กระทบ Lamb Weston จนต้องปิดโรงงาน

สถานการณ์ความต้องการเฟรนช์ฟรายส์ในตลาดโลกส่งสัญญาณชะลอตัว แม้ผู้บริโภคยังคงนิยมบริโภคอยู่ แต่แนวโน้มปริมาณการสั่งซื้อกลับลดลง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผู้ผลิตเฟรนช์ฟรายส์แช่แข็งรายใหญ่ของโลก ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายหลักให้กับ McDonald's จนนำไปสู่การตัดสินใจปิดโรงงานและปรับลดพนักงาน

Lamb Weston บริษัทผู้ผลิตอาหารชั้นนำในเมือง Eagle รัฐ Idaho ซึ่งมี McDonald's เป็นลูกค้าหลัก คิดเป็นสัดส่วนยอดขาย 14% ได้ประกาศปิดโรงงานแห่งหนึ่งใน Connell รัฐ Washington พร้อมกับปรับลดพนักงานทั่วโลกประมาณ 4% และยกเลิกตำแหน่งงานที่ยังว่าง โดย นาย Tom Werner ประธานกรรมการบริหาร เปิดเผยว่า "ยอดจำหน่ายเฟรนช์ฟรายส์แช่แข็งอยู่ในภาวะซบเซา และคาดการณ์ว่าแนวโน้มดังกล่าวจะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2568"

รายงานวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ระบุว่า จำนวนลูกค้าร้านฟาสต์ฟู้ดประเภทเบอร์เกอร์ในสหรัฐอเมริกาลดลงประมาณ 3% ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา (สิ้นสุดวันที่ 25 สิงหาคม) ซึ่งถือว่าปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนหน้าที่ลดลงกว่า 4% ขณะที่ภาพรวมจำนวนลูกค้าร้านฟาสต์ฟู้ดในสหรัฐอเมริกาลดลง 2% ซึ่งเป็นทิศทางที่ดีขึ้นจากช่วง 3 เดือนก่อนหน้าที่ลดลง 3%

ปัจจัยสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ากลับเข้าร้านอาหารในช่วงมิถุนายนถึงสิงหาคม คือ "กิจกรรมส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้น" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง McDonald's ที่ออกโปรโมชั่นชุดอาหารราคา $5 ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมา

McDonald's ลดไซส์เฟรนช์ฟรายส์ กระทบ Lamb Weston ต้องรัดเข็มขัด

ยอดขายเฟรนช์ฟรายส์ McDonald's ซบเซา กระทบ Lamb Weston จนต้องปิดโรงงาน

แม้จำนวนลูกค้าร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดจะปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้ส่งผลโดยตรงต่อยอดขายเฟรนช์ฟรายส์ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป โดย นาย Werner กล่าวต่อในระหว่างการประชุมสรุปผลประกอบการว่า "ประเด็นสำคัญคือ โปรโมชั่นชุดอาหารราคาประหยัด กระตุ้นให้ลูกค้าจำนวนมากเลือกสั่งเฟรนช์ฟรายส์ขนาดเล็กแทนขนาดกลาง"

ชุดอาหารราคา $5 ของ McDonald's ซึ่งประกอบด้วยเฟรนช์ฟรายส์ขนาดเล็ก, เบอร์เกอร์ McDouble หรือ McChicken, ไก่ McNuggets 4 ชิ้น และน้ำอัดลมขนาดเล็ก เป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมดังกล่าวได้อย่างชัดเจน "แม้บริษัทจะได้ประโยชน์จากแนวโน้มจำนวนลูกค้าที่เพิ่มขึ้น แต่การที่ลูกค้าเลือกสั่งขนาดเล็กลง ย่อมส่งผลกระทบต่อปริมาณยอดขายโดยรวม" นาย Werner กล่าวเสริม

นอกจากนี้ Lamb Weston ซึ่งแยกตัวออกมาจาก Conagra ในปี 2559 ยังได้ดำเนินมาตรการ "ปรับลดกำลังการผลิตและตารางการผลิตชั่วคราว" ในโรงงานบางแห่งในอเมริกาเหนือ ควบคู่ไปกับการเร่งระบาย "สินค้าคงคลังสำเร็จรูปที่มีอยู่ในระดับสูง" เพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว

ยอดขายเฟรนช์ฟรายส์ McDonald's ซบเซาจริงหรือ?

ยอดขายเฟรนช์ฟรายส์ McDonald's ซบเซา กระทบ Lamb Weston จนต้องปิดโรงงาน

มีสัญญาณบ่งชี้ว่ายอดขายเฟรนช์ฟรายส์ของ McDonald's อาจลดลง โดยผลประกอบการของ McDonald's ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2567 สะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณอันน่าจับตาในอุตสาหกรรมอาหารจานด่วน โดยยอดขายในสหรัฐอเมริกาลดลง 0.7% และยอดขายทั่วโลกลดลง 1% นับเป็นการลดลงครั้งแรกของยอดขายทั่วโลกนับตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายของปี 2563 ซึ่งสอดคล้องกับช่วงเวลาที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ เผชิญภาวะถดถอยจากผลพวงของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

Lamb Weston ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเฟรนช์ฟรายส์แช่แข็งรายใหญ่ และเป็นคู่ค้าหลักของ McDonald's รายงานยอดขายสุทธิประจำไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 25 สิงหาคม 2567 ที่ 1.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 1% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี บริษัทคาดการณ์ว่ายอดขายรวมตลอดปีงบประมาณ 2568 จะเติบโตขึ้นอยู่ที่ 6.6 - 6.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สูงกว่ายอดขายในปีงบประมาณ 2567 ซึ่งอยู่ที่ 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

Teresa Paulsen โฆษกของ Lamb Weston ชี้แจงว่า "Lamb Weston ยังคงเชื่อมั่นในความนิยมเฟรนช์ฟรายส์ในระดับโลก การปิดโรงงานแห่งหนึ่งซึ่งเป็นโรงงานเดิม มีผลกระทบต่อกำลังการผลิตโดยรวมไม่ถึง 5% การปรับกลยุทธ์การผลิตในครั้งนี้ จึงถือเป็นการบริหารจัดการเพื่อรักษาสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานในระยะสั้น"

อนึ่ง McDonald's ถือเป็นลูกค้าหลักของ Lamb Weston ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากมันฝรั่งหลากหลายประเภท อาทิ เฟรนช์ฟรายส์ มันฝรั่งหวานทอด และท็อตส์ โดยสัดส่วนยอดขายจาก McDonald's คิดเป็น 14% ของยอดขายสุทธิของ Lamb Weston ในปีงบประมาณ 2567 และ 13% ในปี 2566 ตามรายงานประจำปีที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สหรัฐอเมริกา

แนวโน้มเฟรนช์ฟรายส์ไซส์เล็กยังคงมาแรง แต่ตลาดเฟรนช์ฟรายส์โดยรวมยังสดใส

ยอดขายเฟรนช์ฟรายส์ McDonald's ซบเซา กระทบ Lamb Weston จนต้องปิดโรงงาน

McDonald's มีแผนที่จะคงโปรโมชั่นชุดอาหารราคาประหยัดไว้ในเมนูจนถึงเดือนธันวาคม ซึ่งอาจส่งผลให้เฟรนช์ฟรายส์ขนาดเล็กยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปี 2567 อย่างไรก็ตาม นาย Werner คาดการณ์ว่า สถานการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบในระยะยาว "ความต้องการเฟรนช์ฟรายส์ของผู้บริโภคยังคงแข็งแกร่ง ประกอบกับเฟรนช์ฟรายส์เป็นเมนูหลักที่สำคัญ เราจึงมั่นใจว่าตลาดเฟรนช์ฟรายส์ทั่วโลกจะกลับมาเติบโตในอัตราปกติ เมื่อจำนวนลูกค้าร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดทั่วโลกปรับตัวดีขึ้น"

Placer.ai บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล เปิดเผยว่า จำนวนลูกค้าของ McDonald's และ Wendy's ยังคงทรงตัว โดยประเมินจากการติดตามอุปกรณ์นับล้านเครื่อง และใช้เทคโนโลยี Machine Learning พบว่าจำนวนลูกค้าของร้านอาหารทั้งสองเครือ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 "ใกล้เคียงกับระดับของปี 2566"

นอกจากนี้ เมนูพิเศษ "เฉพาะช่วงเวลา" ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดย Wendy's มียอดลูกค้าเพิ่มขึ้น 26.4% ในวันที่ 8 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันเปิดตัวเมนู Krabby Patty Kollab เมื่อเทียบกับวันอังคารปกติ เช่นเดียวกับ McDonald's ที่มียอดลูกค้าเพิ่มขึ้น 7.9% ในวันที่ 10 ตุลาคม ซึ่งเป็นวันแรกที่วางจำหน่าย Chicken Big Mac

Kristoffer Inton นักวิเคราะห์จาก Morningstar ระบุในรายงานวิเคราะห์ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ว่า "แนวโน้มความต้องการเฟรนช์ฟรายส์ในระยะยาว ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เฟรนช์ฟรายส์ยังคงเป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยม และสร้างผลกำไรสูงสุดให้กับร้านอาหาร การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องของร้านอาหารบริการด่วน (QSR) จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย และเพิ่มศักยภาพการบริโภค ในอีกหลายปีข้างหน้า"

ตลาดเฟรนช์ฟรายส์ยังไปต่อ แม้ McDonald's ขายน้อยลง

ยอดขายเฟรนช์ฟรายส์ McDonald's ซบเซา กระทบ Lamb Weston จนต้องปิดโรงงาน

แม้ยอดจำหน่ายเฟรนช์ฟรายส์ของ McDonald's จะแสดงแนวโน้มการชะลอตัวลง จนส่งผลให้ Lamb Weston ซึ่งเป็นผู้ผลิตเฟรนช์ฟรายส์แช่แข็งรายใหญ่ของโลก ต้องดำเนินมาตรการปรับลดกำลังการผลิตและปิดโรงงานบางส่วน ทว่าจากการวิเคราะห์สถานการณ์โดยรวม พบว่าวิกฤตการณ์ดังกล่าวอาจเป็นเพียงผลกระทบชั่วคราวต่ออุตสาหกรรมเฟรนช์ฟรายส์เท่านั้น

ข้อมูลจากหลายแหล่งชี้ให้เห็นถึงปัจจัยบวกที่สนับสนุนการเติบโตของตลาดเฟรนช์ฟรายส์ในระยะยาว ดังนี้

  • ความต้องการบริโภคยังคงแข็งแกร่ง: เฟรนช์ฟรายส์ยังคงเป็นเมนูยอดนิยม และเป็นหนึ่งในรายการอาหารที่สร้างผลกำไรสูงสุดให้กับผู้ประกอบการร้านอาหาร
  • การขยายตัวของธุรกิจร้านอาหารบริการด่วน: การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องของร้านอาหารบริการด่วน (QSR) ทั่วโลก ย่อมนำไปสู่โอกาสในการจำหน่ายเฟรนช์ฟรายส์ที่เพิ่มขึ้น
  • กลยุทธ์เมนูพิเศษกระตุ้นยอดขาย: แม้ผู้บริโภคบางส่วนอาจเลือกสั่งเฟรนช์ฟรายส์ขนาดเล็กลง แต่การนำเสนอเมนูพิเศษเฉพาะช่วงเวลา ก็เป็นกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จในการดึงดูดลูกค้า และช่วยกระตุ้นยอดขายได้เป็นอย่างดี

Lamb Weston ยังคงแสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของธุรกิจ และคาดการณ์ว่าตลาดเฟรนช์ฟรายส์ทั่วโลกจะสามารถฟื้นตัวกลับมาเติบโตในอัตราปกติได้ เมื่อเศรษฐกิจโลกและพฤติกรรมผู้บริโภคมีเสถียรภาพมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเฟรนช์ฟรายส์ จำเป็นต้องเตรียมความพร้อม และปรับตัวให้เท่าทันต่อพลวัตของตลาด เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ รูปแบบ รสชาติ และขนาด ให้มีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด ท้ายที่สุดแล้ว ด้วยความนิยมที่ยังคงมีอยู่ เชื่อว่าเฟรนช์ฟรายส์จะยังคงเป็นเมนูหลัก ที่อยู่คู่กับวัฒนธรรมการบริโภคอาหารของผู้คนทั่วโลกต่อไป

 ที่มา freep

แชร์
ยอดขายเฟรนช์ฟรายส์ McDonald's ซบเซา กระทบ Lamb Weston จนต้องปิดโรงงาน