Highlight ไฮไลต์ นี่คือสรุปเนื้อหาสั้น ๆ จากบทความครับ:
สรุป 10 เทรนด์การตลาด 2026 จาก MAT ชี้ว่าโลกกำลังเข้าสู่ยุค "ไร้สมดุล" (Unbalanced World) ที่ตลาดจะแตกย่อย (Niche) มากขึ้น และแบรนด์ที่ไม่มีจุดยืนชัดเจน (แบรนด์กลาง) จะอยู่รอดได้ยาก
ในยุคที่ AI พัฒนาจากการเป็น "เครื่องมือ" สู่การเป็น "ทีมงาน AI" (AI Teammate) ตรรกะและข้อมูลจะถูกจัดการโดยอัตโนมัติ ทำให้ "ความคิดสร้างสรรค์" กลายเป็นอาวุธที่สำคัญที่สุด ของนักการตลาด
ดังนั้น กลยุทธ์สำคัญคือการปรับตัวให้ยืดหยุ่น (Chaotic Advantage) และแบรนด์ต้องยกระดับจากการ "บริหาร" สู่การ "ขับเคลื่อนสังคม" (Brand Movement) โดย Influencer ต้องสร้าง "ความหมาย" (Meaning) ไม่ใช่แค่ "ขายของ" เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใส่ใจประเด็นสังคมมากขึ้น
สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย (MAT) วิเคราะห์ทิศทางธุรกิจปี 2026 ชี้เป็น "ปีแห่งการเปลี่ยนผ่าน" สู่โลกที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ขณะเดียวกันก็เปราะบางสูงจากความไร้สมดุลทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ดร. บุรณิน รัตนสมบัติ นายกสมาคมฯ ย้ำ นักการตลาดต้องพร้อมรับมือ "โลกไร้สมดุล" (An unbalanced world) ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งเป็นผลจากการติดตามสถานการณ์ตลอดปี 2025
ดร. บุรณิน เปิดเผยว่า โลกที่หมุนเปลี่ยนอย่างรวดเร็วและคาดเดาได้ยาก ทำให้นักการตลาดและผู้ประกอบการไทยต้องเตรียมพร้อมก้าวข้ามการเปลี่ยนแปลง โดยสมาคมฯ ได้สรุป 10 แนวโน้มสำคัญที่จะกำหนดทิศทางการตลาดในปี 2026
10 แนวโน้มหลัก (Mega Trends) กำหนดทิศทางการตลาด 2026
ทิศทางหลักในการขับเคลื่อนแบรนด์และธุรกิจในยุคใหม่ มีดังนี้:
จุดเปลี่ยนสู่โลกไร้สมดุล: โลกกำลังเปลี่ยนจากสภาวะสมดุลเข้าสู่สภาวะที่ไม่สมดุลในทุกมิติตลาดแตกย่อย (Fragmentation): ตลาดขนาดใหญ่ (Mass Market) จะถูกแบ่งย่อยเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) มากขึ้นอิทธิพลเอเชีย (Asia Soft Power): ภูมิภาคเอเชียและจีน จะเริ่มมีอิทธิพลทางความคิดแทนที่โลกตะวันตกCreativity นำ Logic: AI จะกลายเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ทุกคนใช้ ความคิดสร้างสรรค์ของนักการตลาดจึงสำคัญกว่าตรรกะเทคโนโลยีใหม่ (New Tech): Multiverse, AI Agentic และ Humanoid (หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์) จะถูกนำมาใช้ในการทำตลาดจริงจังขึ้นพลังขับเคลื่อนทางสังคม: ผู้บริโภคจะให้ความสำคัญและใส่ใจกับประเด็นทางสังคมมากขึ้น (นำไปสู่ Drama and Viral Marketing)Influencer สู่ผู้นำจิตวิญญาณ: Influencers จะไม่ใช่แค่ผู้เชียร์สินค้า แต่ต้องยกระดับเป็นผู้นำทางความคิด ผู้นำจิตวิญญาณ และ Key Opinion Customer (KOC)แบรนด์ = อัตลักษณ์: เกิดการผสมผสานอัตลักษณ์และวัฒนธรรมของผู้คนเข้ากับตัวตนของแบรนด์การตลาดสำคัญกว่าการผลิต: ความอยู่รอดของธุรกิจจะขึ้นอยู่กับการบริหารการเงินและกระแสเงินสด (Cashflow)แบรนด์กลางจะอยู่ยาก: แบรนด์ที่ไม่มีจุดยืนหรือจุดขายที่ชัดเจน (แบรนด์กลางๆ) จะอยู่รอดได้ยากขึ้น
"แบรนด์จำเป็นต้องมีการปรับตัวอย่างประณีต แม่นยำ และคล่องตัว" ดร. บุรณิน กล่าวเสริม "ขณะเดียวกัน นักการตลาดต้องกล้าคิดนอกกรอบ ก้าวข้ามการส่งมอบคุณค่าแบบดั้งเดิม ผสมทฤษฎีและภาคปฏิบัติเข้าด้วยกัน จนกลายเป็นวัฒนธรรมและตัวตนของแบรนด์"
6 กลยุทธ์การตลาดที่ต้องทำในปี 2026
เพื่อรับมือกับ 10 แนวโน้มดังกล่าว MAT ได้แนะ 6 กลยุทธ์ที่นักการตลาดควรปรับใช้ ดังนี้:
Competitive Advantage → Chaotic Advantage: (จาก ความได้เปรียบทางการแข่งขัน สู่ ความได้เปรียบในโลกไร้ระเบียบ) ในโลก "ไร้สมดุล" ความยืดหยุ่นและการปรับเปลี่ยนที่หลากหลาย คือความได้เปรียบที่แท้จริง ทั้งในเชิงกลยุทธ์และการจัดการ Supply ChainMicro Marketing → Micro Everything: (จาก การตลาดจุลภาค สู่ ทุกสิ่งแบบจุลภาค) การตลาดเฉพาะเจาะจงไม่เพียงพออีกต่อไป แต่ต้องเฉพาะเจาะจงตั้งแต่ต้นน้ำ (การผลิต, การจัดจำหน่าย) นักการตลาดที่ดีอาจต้องช่วยสร้างอำนาจซื้อให้ลูกค้าด้วยAI Marketing Tool → AI Marketing Teammate: (จาก AI ในฐานะเครื่องมือ สู่ AI ในฐานะทีมงาน) AI จะไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างชิ้นงาน แต่จะเป็น "ทีมงาน AI" ที่สามารถคิด จัดการงานการตลาดอัตโนมัติ และช่วยสร้างนวัตกรรมหรือกลยุทธ์ที่สร้างสรรค์ได้Brand Management → Brand Movement: (จาก การบริหารแบรนด์ สู่ การขับเคลื่อนสังคม) แบรนด์ต้องเป็นมากกว่าการจัดการ แต่ต้องเป็นเครื่องมือสร้างแรงกระเพื่อมทางสังคม และพัฒนาสังคมสู่ความยั่งยืนDrama Queen → Drama Quality: (จาก ดราม่าเรียกกระแส สู่ ไวรัลเชิงคุณภาพ) เปลี่ยนจากการสร้างดราม่าเพื่อให้เป็นข่าว ไปสู่การสร้างไวรัลที่มีความหมายและส่งผลดีต่อสังคม ผู้คนจะแชร์สิ่งที่ "ใช่" และ "สร้างสรรค์ประโยชน์" มากขึ้นInfluencer Selling → Influencer Meaning: (จาก Influencer ขายของ สู่ Influencer ผู้สร้างความหมาย) ผู้บริโภคต้องการ "Guidance" (คำแนะนำ/ผู้นำทาง) ไม่ใช่ "โฆษณา" แบรนด์ต้องเข้าใจปัจจัยทางจิตวิทยาและสังคม และนำคุณค่าเหล่านั้นมาเป็นจุดขายที่มีความหมาย
ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ กล่าวสรุปว่า “โลกในปี 2026 จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป การตลาดไม่ใช่แค่การขายสินค้า แต่คือการสร้างความเข้าใจในมนุษย์ สังคม และเทคโนโลยี เพื่อขับเคลื่อนอนาคตของประเทศ นักการตลาดยุคใหม่ต้องพร้อม ‘Prompt the Future’ ด้วยพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์และการปรับตัวอย่างไม่หยุดนิ่ง”