ผู้ปกครองโดนใจ นโยบาย รองเท้าคู่เดียวใส่ได้ทุกชุด ไม่ต้องซื้อชุดลูกเสือ-ยุวกาชาด
ผู้ปกครองโดนใจ หลังเห็นโรงเรียนผดุงวิทย์ จ.เพชรบูรณ์ ออกนโยบายช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง รองเท้าคู่เดียวใส่ได้ทุกชุด (สามารถใส่รองเท้ากีฬากับชุดนักเรียนได้) และไม่ต้องซื้อชุดลูกเสือ-ยุวกาชาด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
โรงเรียนผดุงวิทย์ จ.เพชรบูรณ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ออกประกาศระเบียบการแต่งชุดนักเรียนในภาคการศึกษาใหม่โดยระบุว่า "ประกาศโรงเรียนผดุงวิทย์นโยบายปี 64 ไม่ต้องซื้อชุดลูกเสือ-ยุวฯ ไม่ต้องใส่ชุดลูกเสื้อ-ยุวฯ (ใส่แต่ผ้าพันคอเมื่อร่วมกิจกรรม) และรองเท้าคู่เดียวใส่ได้ทุกชุด (สามารถใส่รองเท้ากีฬากับชุดนักเรียนได้)" ทำให้โดนใจผู้ปกครองหลายคน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันเป็นวงกว้าง
เช่นเดียวกับสถานการณ์การศึกษาซึ่งตามกำหนดหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงคาดจะเปิดทำการเรียนการสอนพร้อมกันในช่วงวันที่ 14 มิถุนายน 2564 และทุกครั้งในช่วงเปิดภาคเรียนใหม่อาจทำให้ผู้ปกครองหลายท่านต่างประสบปัญหาในด้านค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมหาชุดนักเรียนใหม่ให้แก่บุตรหลานเพื่อต้อนรับวันเปิดเทอม จนมีข่าวว่าพ่อแม่ผู้ปกครองบางท่านต้องดิ้นรนหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ซึ่งหลังจากเผยแพร่ออกไปมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมและชื่นชอบในนโยบายที่ผู้บริหารโรงเรียนมีวิสัยทัศน์ในช่วงสถานการณ์โควิดเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโรงเรียนดังกล่าวเพื่อขอสัมภาษณ์ถึงนโยบายรองเท้าคู่เดียวใส่ได้ทุกชุด แต่ทางโรงเรียนปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลและห้ามทำการบันทึกภาพของทางโรงเรียนโดยบอกเพียงสั้นๆ ว่าเป็นนโยบายของผู้บริหารอาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับทางผู้บริหารเป็นคนตัดสินใจ ขณะที่ตัวของผู้บริหารเองทางผู้สื่อข่าวก็ยังไม่สามารถที่จะเข้าพบได้โดยทราบว่ายังติดภารกิจอยู่ แต่ฝ่ายครูได้ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าทางโรงเรียนผดุงวิทย์เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึง ม.ต้น ซึ่งหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงคงเปิดการเรียนการสอนตามกำหนดวันที่ 14 มิถุนายนนี้
ด้านผู้ปกครองนักเรียนหลายรายที่อยู่ต่างอำเภอใน จ.เพชรบูรณ์ หลังจากได้ทราบประกาศดังกล่าวก็ต่างพากันถูกใจกับเรื่องราวดีๆ ที่ทางโรงเรียนดังกล่าวออกนโยบายแบ่งเบาภาระผู้ปกครองในช่วงสถานการณ์โควิด และอยากให้ในพื้นที่ตัวเองมีนโยบายแบ่งเบาภาระผู้ปกครองเช่นนี้บ้าง หากสิ่งไหนประหยัดได้สิ่งไหนใช้ร่วมกันได้ก็จะกลายเป็นเรื่องดี
สอบถามนางจุชจรินทร์ น้ำเย็น อายุ 42 ปี ชาวอำเภอหนองไผ่ อาชีพขายของชำ เผยว่าได้เห็นข่าวนโยบายดังกล่าวก็รู้สึกดีนะที่เป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง อันไหนใช้ได้ก็ใช้ไปก่อนเพราะช่วงนี้สถานการณ์โควิดทำให้หาเงินยาก ขายของก็ไม่ดี
ด้านนางช่อทิพย์ ชูมา อายุ 44 ปี อาชีพแม่ค้าอาหารตามสั่งช เผยว่ารู้สึกดี ชื่นชอบนโยบายดังกล่าวเพราะช่วยประหยัดเงิน ช่วยลดต้นทุนของผู้ปกครองที่มีรายได้น้อยเพราะสถานการณ์โควิดทำให้ขายของไม่ดี รายได้ติดขัด
Advertisement
