เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางลงพื้นที่เขตสายไหม กทม. เพื่อไปสอบถาม นางอุษณีย์ ชุ่มโพธิ์ อายุ 56 ปี เจ้าของกิจการ กล่าวว่า ตนรับลูกจ้างต่างด้าวมาจาก จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา แต่ในขณะนั้นตนได้กำชับลูกจ้างว่าห้ามออกจากบ้าน เนื่องจากเป็นจุดเสี่ยงที่เดินทางมา แต่ทางลูกน้องไม่เชื่อฟังตน ออกไปจ่ายตลาดทุกวันอาทิตย์กับลูกจ้างเก่าที่อยู่ภายในบ้าน
โดยปกติแล้วตนจะไปรับลูกจ้างต่างด้าวมาด้วยตนเอง มีการจัดทำพาสปอร์ตให้ลูกจ้างเรียบร้อย โดยกิจการของตน คือ เย็บผ้าส่งให้ตามร้านผ้าสำเร็จรูป ซึ่งหากทำคนเดียวไม่ทัน จึงต้องจ้างแรงงานต่างด้าวเข้ามาช่วย และเป็นแบบนี้มานานแล้ว แต่จะอยู่ที่ว่าจะเพิ่มหรือลดลูกจ้าง ซึ่งพอวันรุ่งขึ้น เรื่องก็เกิดขึ้น ตนรู้สึกเสียใจมาก เนื่องจากข่าวที่ออกไป บอกว่าลูกจ้างของตนที่เดินทางมาจาก จ.สมุทรสาคร ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งความจริงไม่ได้ติดแต่อย่างใด เพียงแต่เดินทางมาจากจุดเสี่ยงเท่านั้น
ทั้งนี้ ตอนนี้ลำบากไปถึงลูกสาวของตนด้วย โดยทางโรงเรียนได้โทรแจ้งตนมาเมื่อช่วงเช้าว่า งดการมาโรงเรียน 14 วัน ให้กักตัวอยู่ที่บ้าน เนื่องจากอยู่ใกล้ชิดกับคนกลุ่มเสี่ยง ตนรู้สึกหวั่นใจมาก กลัวว่าลูกสาวจะเรียนไม่ทันกับเพื่อนคนอื่น ๆ
ทีมข่าวเข้าสอบถามต่อ ไปยังนายเสน่ห์ เสือแก้ว อายุ 63 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวว่า ตนรู้สึกกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก เพราะในหมู่บ้านมีทั้งเด็ก คนแก่ คนชรา รวมไปถึงบุตรหลานของตน ซึ่งหากทางเจ้าของกิจการดังกล่าว มีการปิดบังข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ ตนกลัวว่าในชุมชนแห่งนี้คงต้องล็อกดาวน์ ขาดการทำมาหากินแน่นอน บางครอบครัวลำบากแล้ว ก็อาจจะต้องลำบากขาดแคลนมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ ตนและคนในชุมชน เห็นเจ้าของกิจการคนดังกล่าว ออกจากบ้านไปขนมะพร้าว เมื่อตอนเช้ามืด ปกติที่บ้านของเจ้าของกิจการทำไอศกรีมขายด้วย แต่ถ้าหากอยู่ร่วม หรือใกล้ชิดกับลูกจ้างที่เสี่ยง ก็ควรที่จะต้องกักตัวเองด้วย
นายเสน่ห์ ยังกล่าวอีกว่า อยากจะฝากเจ้าของกิจการให้เชื่อฟัง ปฏิบัติตัวตามที่แพทย์สั่ง เนื่องจากคนในหมู่บ้านก็กลัวว่าจะไปแพร่เชื้อ เพราะว่าเขาก็อยู่กับคนต่างด้าวด้วย ชาวบ้านจึงเป็นห่วงในเรื่องนี้มาก อยากให้ทางเจ้าของกิจการให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่และทีมแพทย์ เพื่อความปลอดภัยของชุมชน
Advertisement