
จากเหตุปะทะเดือดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา ด้านสมรภูมิ เนิน350 ใกล้ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 68 ส่งผลให้กองทัพไทยต้องสูญเสียกำลังพลเพิ่มอีก 2 นาย ได้แก่ จ.ส.อ.เริง คลังประโคน และพลทหารวุ่น ภานุพัฒน์ เสาร์สา สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 23 (ร.23พัน.3)
รายงานจากหน่วยงานความมั่นคง ระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้พบบริเวณร่างของทหารทั้งสองนายแล้ว และอยู่ระหว่างลำเลียงออกจากพื้นที่ปะทะมายังพื้นที่ปลอดภัยก่อนนำส่งโรงพยาบาลค่ายจังหวัดสุรินทร์ เพื่อพิสูจน์ทราบและดำเนินการตามพิธีทางทหารอย่างสมเกียรติ
สำหรับพลทหารวุ่น มีภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ครอบครัวเตรียมนำร่างกลับไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ที่วัดกลาง ต.ห้วยเหนือ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ
ด้านนางพิชญ์สินี เสาร์สา อายุ 41 ปี มารดาของพลทหารวุ่น เปิดใจทั้งน้ำตาว่า ทราบข่าวช่วงเที่ยงจากผู้ใหญ่บ้านที่โทรมาแจ้งว่า “เจอลูกแล้ว” ทำให้รู้สึกใจฟูขึ้นมาท่ามกลางความเจ็บปวดจึงตัดสินใจออกจากโรงพยาบาลเร็วกว่ากำหนด เพื่อไปเตรียมเสื้อผ้าสวยๆ สำหรับรอรับร่างลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย ลูกเคยบอกแม่ไว้ว่าถึงแม่จะไม่แต่งหน้ามาก แต่ขอให้แม่ดูดี ยิ้มได้ แข็งแรง และเข้มแข็ง แม่จะทำให้ได้
นางพิชญ์สินี กล่าวพร้อมพนมมือขอบคุณทหารทุกนายที่เสี่ยงชีวิตเข้าไปนำร่างลูกชายออกมาจากพื้นที่สู้รบ ยอมรับว่ารอวันนี้มานานแสนนาน
นางพิชญ์สินี ยังฝากถึงสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาว่า อยากให้เหตุการณ์ยุติโดยเร็ว ไม่อยากให้แม่คนใดต้องสูญเสียลูกเช่นเดียวกับตน แต่หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็ขอให้ทุกอย่างจบลงโดยเร็วที่สุด
ขณะที่น้องสาวของพลทหารวุ่น เปิดเผยว่า ขอบคุณทหารทุกนายที่ช่วยพาพี่ชายกลับบ้าน และยืนยันว่าจะเดินหน้าทำตามความฝันของพี่ชายต่อไป แม้พี่จะจากไปแล้วก็ตาม
หลังให้สัมภาษณ์เสร็จสิ้นนางพิชญ์สินี พร้อมญาติพี่น้องได้เดินทางออกจากโรงพยาบาล เพื่อไปเลือกซื้อชุดสวยๆ ตามคำสั่งเสียของพลทหารวุ่นก่อนเตรียมรอรับร่างวีรบุรุษกลับบ้านอย่างสมเกียรติ
Advertisement