
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 11 ธ.ค. 68 พล.ร.ต.สุรสันต์ คงศิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า ในส่วนของกองทัพบก ทางกัมพูชายังคงโจมตีอย่างต่อเนื่องด้วยอาวุธหนัก เช่น BM-21 โดรน Kamikaze ปืนครก โดยเฉพาะบริเวณช่วงอานม้าและเนิน 667 ในขณะที่กองทัพเรือได้ดำเนินกลยุทธ์ตามยุทธการตราดปราบปรปักษ์ในพื้นที่ จ.ตราด อย่างต่อเนื่อง และได้รับการโจมตีโดยโดรนของฝั่งกัมพูชาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยทั้งสองเหล่าทัพดำเนินการไปตามแผนและมีความคืบหน้าในการปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องอย่างมีนัยยะ
อย่างไรก็ตาม ได้มีการพบทหารกัมพูชาที่ใช้บ้านประชาชนเป็นป้อมปราการทางทหาร ตรวจพบการติดตั้งปืนกลในบ้านพัก ถือเป็นการละเมิด อนุสัญญาต่างๆ ในการใช้มนุษย์เป็นโล่กำบัง ส่วน สำหรับกองทัพอากาศยังคงปฏิบัติการสนับสนุนกำลังภาคพื้นดินในการลุกคืบอย่างมีประสิทธิภาพ
“แต่เป็นที่น่าเสียใจที่กำลังพลของเราสูญเสียอีก 2 รายในพื้นที่ของกองทัพภาคที่1 จำนวน 1 นาย และสูญเสียชีวิตอีก 1 รายในพื้นที่ของกองทัพภาคที่2 โดยปัจจุบันมีกำลังพลสูญเสียไปแล้ว 9 นายและบาดเจ็บประมาณ 120 นาย”
พร้อมยังได้เปิดเผยภาพความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนที่ถูกโจมตีด้วย BM 21 รวมถึงถนนในพื้นที่ จ.ตราด รวมสถิติผลกระทบต่อพลเรือน เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 68 ณ เวลา 16.00 น. โดยพบประชาชนที่พลัดถิ่นและพักอาศัยอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงทั้งหมด 199,618 คน ในศูนย์พักพิง 849 แห่งและมีผู้เสียชีวิต 3 ราย โรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบ 19 แห่งรวมถึงโรงพยาบาลสาสตำบล 180 แห่ง ทำให้ต้องอพยพผู้ป่วยจากพื้นที่ ซึ่งขอประณามการใช้อาวุธหนักโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชาที่สร้างผลกระทบดังกล่าว
Advertisement