
(28 พ.ย. 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดปัตตานียังคงวิกฤติอย่างหนัก เนื่องจากเป็นพื้นที่รับมวลน้ำที่หลากมาจากนราธิวาสและยะลา ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสายหลักยังสูงต่อเนื่อง ทั้ง 12 อำเภอยังคงจมอยู่ใต้น้ำ ประชาชนถูกน้ำท่วมต่อเนื่องนานเป็นสัปดาห์ เสบียงอาหารเริ่มร่อยหรอ หลายครอบครัวขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มอย่างหนัก
โดยเฉพาะ อำเภอหนองจิก ซึ่งถือเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด 12 ตำบล กว่า 10,614 ครัวเรือน หรือ 32,325 คน ถูกน้ำท่วมทุกหมู่บ้าน เนื่องจากมีคลองธรรมชาติและคลองชลประทานหลายสายตัดผ่าน เมื่อมวลน้ำทะลักเข้ามา ระดับน้ำสูง 1-2 เมตร และบางจุดสูงถึง 3 เมตร จนบ้านชั้นเดียวจมน้ำมิดหลังคา ชาวบ้านต้องหนีขึ้นที่สูงแบบไม่ทันตั้งตัว
บ้านสองชั้นจำนวนมากชั้นล่างจมบาดาล ต้องอาศัยกันอย่างแออัดบนชั้นสอง ขณะที่บางหลังพังเสียหายจนเข้าอยู่ไม่ได้ การเดินทางภายในพื้นที่ต้องใช้เรือเท่านั้น เจ้าหน้าที่และจิตอาสาต้องลุยน้ำช่วยขนย้ายผู้ป่วย เด็ก และผู้สูงอายุออกจากหมู่บ้านท่ามกลางกระแสน้ำเชี่ยว
เช่นเดียวกับตำบลตุยง อ.หนองจิก สถานการณ์ยิ่งน่าเป็นห่วง หลายครอบครัวไม่มีอาหารทานต่อเนื่องหลายวัน ชาวบ้านจำนวนหนึ่งต้องออกมายืนขออาหารบริเวณริมถนนสาย 42 ปัตตานี-หาดใหญ่ บางคนต้องไลฟ์สดขอความช่วยเหลือผ่านโซเชียล เพราะความช่วยเหลือเข้าถึงล่าช้า เนื่องจากหลายพื้นที่ของปัตตานีได้รับผลกระทบวงกว้าง และกำลังเจ้าหน้าที่ต้องกระจายไปช่วยพื้นที่หาดใหญ่เช่นกัน
กระทั้ง นางฟาตีเมาะ สะดียามู ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี รับทราบเรื่อง จึงสั่งการให้ ปภ. และ อบต.ตุยง ส่งถุงยังชีพด่วนเข้าไปช่วยเหลือทันที ไม่นานเจ้าหน้าที่สามารถนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้ประชาชนจำนวนมาก แต่ในบางจุดที่ระดับน้ำยังสูงจนออกมารับของไม่ได้ ผู้นำชุมชนและอาสาสมัครต้องลุยน้ำแบกของไปเคาะประตูแจกตามบ้าน เพื่อให้ทุกครอบครัวมีอาหารประทังชีวิต
สถานการณ์ปัตตานียังน่าเป็นห่วง มวลน้ำจากพื้นที่ตอนเหนือยังคงไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง หลายชุมชนยังรอความช่วยเหลือเร่งด่วนจากภาครัฐและภาคประชาชน
Advertisement