ปัตตานีวิกฤติ! น้ำเหนือ น้ำทะเลหนุนทะลักท่วมเมือง ฝนยังถล่มไม่หยุด
ปัตตานีวิกฤติ! น้ำเหนือ น้ำทะเลหนุนไหลทะลักท่วมเมือง ฝนถล่มไม่หยุดท่วมหนักทุกพื้นที่ โรงเรียนปิดหมดทั้งจังหวัด ขณะที่ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติทั้งจังหวัด
(25 พ.ย. 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วม จ.ปัตตานี ยังคงวิกฤติอย่างต่อเนื่อง หลังจากมวลน้ำจากตอนเหนือ จ.ยะลา ได้ไหลทะลักเข้าสู่พื้นที่ตัวเมืองปัตตานีตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา อีกทั้งยังเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนในเวลาเดียวกัน ส่งผลให้ระดับน้ำในหลายพื้นที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งคืนและทั้งวัน โดยยังไม่มีวี่แววว่าฝนจะหยุดตก ทำให้สถานการณ์ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขณะนี้มวลน้ำได้ขยายออกเป็นวงกว้าง ครอบคลุมทั้ง 12 อำเภอและหลายชุมชน ประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก บ้านเรือนจำนวนมากถูกน้ำท่วมสูง ข้าวของเครื่องใช้เสียหายเป็นจำนวนมาก ทั้งรถจักรยานยนต์ที่จมน้ำ เฟอร์นิเจอร์ และอุปกรณ์ภายในบ้านหลายอย่างที่ไม่สามารถขนย้ายได้ทัน บางครอบครัวต้องอพยพออกจากบ้านไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ขณะที่บางพื้นที่ยังถูกตัดขาดเนื่องจากเส้นทางถูกน้ำท่วมสูง รถไม่สามารถสัญจรได้
ด้านสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ทุกโรงเรียนได้ประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราว เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักและต่อเนื่อง อีกทั้งโรงเรียนหลายแห่งมีน้ำท่วมสูงจนไม่สามารถเปิดเรียนได้ เช่น โรงเรียนบ้านปะกาฮะรัง ต.ปะกาฮะรัง อ.เมืองปัตตานี ที่ถูกน้ำจากลำคลองไหลเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่โรงเรียนอย่างหนัก ระดับน้ำสูง 60-70 ซม. ทำให้เอกสาร การเรียนการสอนบางส่วนได้รับความเสียหาย ขณะที่ตู้เก็บหนังสือและอุปกรณ์สำคัญบางส่วนได้ถูกยกขึ้นที่สูงเพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม
ขณะนี้หน่วยงานท้องถิ่น รวมถึงฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่กู้ภัย และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างเร่งระดมกำลังลงพื้นที่ช่วยประชาชน ทั้งการแจกจ่ายถุงยังชีพ การอพยพผู้ประสบภัย และการจัดตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราวในหลายจุด ทั้งนี้พื้นที่ปัตตานียังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังมีแนวโน้มเกิดฝนตกซ้ำเติมในช่วงวันถัดไป
ขณะที่พื้นที่ จ.ปัตตานี ถูกประกาศให้เป็น เขตภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินทั้ง 12 อำเภอ หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 17 พ.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำฝนสะสมสูงสุดในรอบหลายปี ประกอบกับมวลน้ำจากพื้นที่ตอนเหนือของจังหวัดยะลาไหลหลากลงสู่แม่น้ำปัตตานีอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นรวดเร็วและเกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ ทั่วทั้งจังหวัดเข้าสู่ภาวะวิกฤตอีกครั้ง
หนึ่งในจุดที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ ถนนสายหนองจิก อ.เมืองปัตตานี ซึ่งถือเป็นเส้นทางหลักในการเดินทางเข้าสู่เขตเทศบาลเมือง ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 60–70 ซม. ทำให้รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรได้ ส่วนรถกระบะต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง เนื่องจากมีกระแสน้ำเชี่ยวและคลื่นน้ำที่ถูกแรงรถสาดออก ทำให้บ้านเรือนและร้านค้าริมถนนได้รับผลกระทบเสียหายจำนวนมาก
นอกจากนี้ ถนนสายดังกล่าวยังเป็นเส้นทางหลักมุ่งหน้าไปยัง ศูนย์การค้าบิ๊กซี ปัตตานี ทำให้ประชาชนที่ต้องการเดินทางไปซื้ออาหารหรือสิ่งของจำเป็นเพื่อกักตุนในสถานการณ์น้ำท่วม ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ ส่งผลให้เกิดความเดือดร้อนเพิ่มขึ้น
สำหรับพื้นที่นี้ถือเป็นจุดที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซากทุกปี เนื่องจากโครงสร้างพื้นที่เป็นแอ่งรับน้ำ และระบบระบายน้ำมีข้อจำกัดหลายด้าน โดยเส้นทางน้ำที่มีอยู่เป็นเพียงเส้นทางน้ำย่อยที่คดเคี้ยว ไม่มีทางน้ำที่ไหลตรงลงทะเล ทำให้น้ำระบายได้ช้า เมื่อมีฝนตกหนักต่อเนื่องและระดับน้ำในแม่น้ำสูงจนล้นตลิ่ง จึงทำให้น้ำเอ่อล้นเข้าท่วมเร็วกว่าปกติและยากต่อการควบคุม
เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานอยู่ระหว่างเร่งสำรวจพื้นที่เสี่ยง และเตรียมการอพยพประชาชนในจุดที่สถานการณ์อาจรุนแรงขึ้น พร้อมจัดตั้งศูนย์ประสานงานช่วยเหลือในแต่ละอำเภอ เพื่อรองรับสถานการณ์ที่อาจยืดเยื้อในช่วงหลายวันจากนี้
Advertisement
