
วันที่ 23 พ.ย.2568 ผู้สื่อข่าวจังหวัดยะลารายงานว่า ทางจังหวัดยะลา เผชิญฝนตกหนักต่อเนื่อง ตั้งแต่วันที่ 20–23 พฤศจิกายน 2568 ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอรามัน ระดับน้ำในแม่น้ำสายบุรีล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน ถนน และพื้นที่การเกษตรของประชาชนเป็นวงกว้าง
ล่าสุด หน่วยกู้ชีพอิควะห์รามัน แจ้งและลงพื้นที่ บริเวณรอยต่อระหว่างตำบลตะโละหะลอ และตำบลจะกว๊ะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา เกิดการทรุดตัวบริเวณคอสะพานคลองมาแจ ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมที่สำคัญ ทำให้ถนนข้ามสะพานบริเวณดังกล่าวทรุดตัว จนไม่สามารถสัญจรได้ รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงยะลาได้ปิดการจราจรบริเวณดังกล่าวและขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางนี้
แขวงทางหลวงยะลา ชี้แจงว่า ช่องทางจราจรบริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมหนักในปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดการทรุดตัวจากแรงดันของกระแสน้ำ ทางหน่วยงานเคยติดตั้งสะพานเหล็กแบรี่ (Bailey bridge) สำรองไว้ให้รถผ่านได้เพียง 1 ช่องทางจราจร แต่กระแสน้ำในช่วงฝนตกหนักครั้งนี้ไหลเชี่ยวกราก ทำให้ดินบริเวณคอสะพานเกิดการทรุดตัวซ้ำ จนอาจเสี่ยงให้สะพานเหล็กแบรี่พังถล่มได้
นายจรูญศักดิ์ หมาดเท่ง นายอำเภอรามัน พร้อมด้วยนายสมเทพ บุญกว้าง จากแขวงทางหลวงยะลา และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางสำรวจความเสียหายแล้ว และประสานขอรถยกสูงเพื่อยกถอนสะพานเหล็กแบรี่ชั่วคราวออกจากตำแหน่ง เพื่อป้องกันเหตุพังถล่มซ้ำ พร้อมติดตั้งป้ายปิดเส้นทางและจัดการอำนวยความสะดวกการสัญจรในพื้นที่ใกล้เคียง
ในขั้นตอนต่อไป แขวงทางหลวงยะลาได้ตั้งแผนของบประมาณจากกรมทางหลวง เพื่อดำเนินงานก่อสร้างสะพานและซ่อมแซมถนนที่ได้รับความเสียหายอย่างถาวร ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่า จะเร่งสำรวจสภาพทางและจัดทำข้อเสนอของบประมาณให้เร็วที่สุดเพื่อคืนการสัญจรและลดผลกระทบต่อประชาชน
ผลกระทบเบื้องต้นจากฝนตกหนักและน้ำท่วมครั้งนี้รวมถึง บ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรของประชาชนถูกน้ำท่วม ถนนหลายสายมีระดับน้ำท่วมขังและบางจุดทรุดตัว เส้นทางคอสะพานคลองมาแจ (รอยต่อ ต.ตะโละหะลอ–ต.จะกว๊ะ) ถูกปิดการจราจรชั่วคราว การใช้สะพานเหล็กแบรี่ชั่วคราวเสี่ยงต่อการพังถล่มหากไม่ยกออกและทำการซ่อมแซมโครงสร้างรองรับ
ทางเจ้าหน้าที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยงานท้องถิ่นยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเตือนประชาชนให้เฝ้าระวังน้ำหลากและหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีการปิดถนน ขณะเดียวกันขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย
สถานการณ์ในพื้นที่ยังคงมีการเปลี่ยนแปลง เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเร่งประสานงาน ฟื้นฟูถนนและสะพานที่ได้รับความเสียหาย พร้อมเร่งสำรวจความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อให้ความช่วยเหลือต่อไป
Advertisement