ชาวบ้านหนองจานพอใจ หลัง บิ๊กเล็ก ไฟเขียวสามระดับจัดการเขมร
ชาวบ้านหนองจานพอใจ หลัง บิ๊กเล็ก ไฟเขียวสามระดับจัดการเขมร ลั่นแต่ถ้าวันที่ไทยถูกรังแก ขอให้ทำจริงตามที่พูด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สำหรับภาพรวมภาคประชาชนในวันนี้ ทีมข่าวลงพื้นที่มาที่บ้านหนองจาน ซึ่งพบว่ามีการตั้งด่านชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน หรือ ชรบ. ตั้งแต่บริเวณทางเข้าหมู่บ้านเพื่อตรวจคัดกรองบุคคลเข้าออกในพื้นที่ชั้นใน เส้นทางที่จะไปยังจุดตรวจ ต.40 โดยพบช่วงนี้จะไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าพื้นที่อย่างเด็ดขาดรวมถึงสื่อมวลชนด้วย เว้นแต่มีภารกิจพิเศษจะมีการอนุญาตเป็นกรณี
จากข้อห้ามดังกล่าวสืบเนื่องจากเกิดเหตุเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา วันที่กัมพูชายิงปืนเล็กใส่บังเกอร์ทหารไทยในพื้นที่ ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว จึงส่งผลให้ทางเจ้าหน้าที่ทหารไทยก็มองว่าสถานการณ์ไม่สงบ จึงจัดการคุมพื้นที่เอาไว้ก่อน
โดยบรรยากาศบริเวณ จุดตรวจ ชรบ. หน้าหมู่บ้าน มีทั้ง กำนัน , ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่ สลับสับเปลี่ยนเวร ดูแลควบคุมพื้นที่ โดยภาพรวมของวันนี้สถานการณ์สงบ ไม่มีชาวบ้านหรือผู้ชุมนุมเข้ามาในพื้นที่
ขณะที่ทีมข่าวได้เข้าไปพูดคุยนางนงรัตน์ จันทะมา หรือเจ๊หมี ชาวบ้านหนองจาน ญาติป้าผิน หรือนางคำผิน โอปั่น เจ้าของที่ดิน 28 ไร่ ในพื้นที่พิพาทบ้านหนองจาน ได้เปิดเผยถึงภาพรวมกรณีที่เจ้าหน้าที่ได้เปิดพื้นที่ให้เข้าไปเก็บเกี่ยวว่าในส่วนของครอบครัว ตนได้เข้าไปเก็บเกี่ยวจนหมดแล้ว ถือว่าจุดนี้สร้างความมั่นใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก ส่วนที่เหลือเป็นของชาวบ้าน แต่ตามแนวถนนศรีเพ็ญ เรียบร้อยดีหลายจุด
แต่ขณะเดียวกันวันนี้ ตนเองได้ลงพื้นที่กับนายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต่อต้านคอรัปชั่น เพื่อตั้งใจไปลงพื้นที่สำรวจ การใช้โดรน หรือการใช้ไลดาร์ สำรวจพื้นที่อ้างสิทธิ์ ของไทยกัมพูชาในการปักหมุดชั่วคราวนั้น เป็นสถานการณ์ต่อเนื่องจากที่เมื่อวาน (18 พ.ย.) หลังการประชุมร่วมเมื่อวาน ซึ่งตอนแรกแจ้งว่าจะเดินควบคู่กันไปทั้งสองประเทศ แต่เมื่อประชุมเสร็จก็บอกว่าจะมีการใช้โดรนบินก่อนแล้วก็จะเอาภาพจากโดรนบิน ซึ่งยอมรับว่าในฐานะชาวบ้านในพื้นที่มีข้อกังวล กรณีที่จะใช้โดรนนั้นจะทำให้ได้ความชัดเจนหรือไม่ และได้เปรียบเสียเปรียบยังไง มีหลักการยังไง และได้รูปแบบเช่นไร และก็อยากฝากไปถึงผู้เกี่ยวข้องว่าชาวบ้านต้องการทราบรายละเอียดอย่างชัดเจนร่วมด้วย
ส่วนวันนี้กรณีที่ตัวแทนกองทัพบกนำคณะผู้ช่วยทูตจาก 17 ประเทศ มาสังเกตการณ์และรายงานฟ้องสถานการณ์ที่ไทยถูกกัมพูชารุกล้ำนั้น นางนงรัตน์ ย้ำว่า เป็นสัญญาณที่ดี โดยเฉพาะกรณีที่ไทยมีหลักฐาน ชี้แจงครบทุกอย่างพิสูจน์ได้ เป็นที่ประจักษ์เปรียบเทียบกับกัมพูชาที่มีแต่เฟคนิวส์ แต่ก็ยอมว่าไทยก็เสียเปรียบในเรื่องการสื่อสารที่ล่าช้า แต่ในฐานะชาวบ้านก็ยังมั่นใจว่าข้อมูลที่เราสื่อสารไปยังทูตนั้นเป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด แต่นั่นอาจจะทำให้เป็นการถูกมองว่าเราสื่อสารล่าช้า
ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ววันนี้ที่มีพบทหารกัมพูชาเข้ามาสอดแนม สอดคล้องกับพื้นที่จังหวัดตราด ขณะที่คณะ AOT ลงพื้นที่อยู่พบชาวกัมพูชาสร้างสถานการณ์ ทำให้การลงพื้นที่ของคณะต้องถูกยกเลิก ส่งผลให้ทางพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ทางเจ้าหน้าที่ห่วงความไม่ปลอดภัย จงยกเลิกการลงพื้นที่ บริเวณหลักเขตแดน 42 ไปด้วย
นางนงรัตน์ บอกไปยังกัมพูชาว่าการกระทำที่เกิดขึ้นเห็นได้ชัดว่า คือการไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง คือการทำทุกอย่างให้ไทยชี้แจงกับชาวโลกได้ไม่สำเร็จ ซึ่งตามข้อเท็จจริงการที่นานาประเทศเข้ามาตรวจสอบ เพราะตรวจสอบทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะการลงพื้นที่ฝั่งประเทศกัมพูชา ทางไทยก็ไม่เคยเข้าไปข้องเกี่ยวหรือขัดขวาง แต่มองว่าการกระทำของกัมพูชานั้นเหมือนกับทำเป็นเรื่องล้อเล่นเหมือนทะเลาะกับเพื่อนบ้าน แต่ก็มองว่าไทยเองอย่าลดตัวลงไปเล่น เพราะมันเหมือนเกมเด็กเล่น ไม่ต่างอะไรจากเด็กประถมทะเลาะกัน
"เหมือนคุณครูมาตรวจแล้วเด็กเอาประทัดมาโยนขัดขวาง ทำให้คุณครูต้องหนีและตรวจสอบไม่ได้ ดังนั้นนาทีนี้เปรียบเสมือนเราเรียนจบแล้วเป็นอาจารย์แล้วแต่กัมพูชาเหมือนเด็กจึงอย่าปล่อยให้เขารังแก และอย่าอ่อนโยน จนอ่อนแอ ยิ่งนานวันสายป่านจะหย่อนยานยาวแค่ไหน ดังนั้นกรณีถูกคุกคามระหว่างนานาชาติตรวจพื้นที่ก็ควรรีบชี้แจงเพราะถือเป็นหลักฐานที่นานาชาติได้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งชาวบ้านเองก็อยากให้จบปัญหานี้อย่างเร็วที่สุด"
ส่วนกรณีที่ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดไฟเขียวทหารใช้กฎ 3 ขั้น เจรจา-เตือน-ยิงตรง หากกัมพูชารุกล้ำนั้น
ขอย้ำว่าที่ผ่านมาทราบขั้นตอนจากระดับผู้นำที่มักจะพูดแบบนี้มาโดยตลอด แต่ขอให้ไฟเขียวจริง ดังนั้นสเต็ปที่ท่านบอกเรียกว่าดีที่สุด แต่ถ้าปฏิบัติตามที่พูดออกมาชาวบ้านจะไม่ว่า เพราะถือเป็นขั้นตอนปฏิบัติที่ถูกต้อง และกลไกต้องเป็นเช่นนี้ มิใช่ว่าไทยจะไปยิงตูมตาม แต่ไทยต้องไม่ปล่อยให้ถูกรังแกและอย่าลืมว่าตอนนี้สูญเสียขาที่ 7 ไปแล้ว ดังนั้นไฟเขียวแล้ว ก็ขอให้ทำจริงๆ
Advertisement
