ญาติเหยื่อ BM21 วอน รัฐบาลและกองทัพ หันมาดูแลปชช.ก่อนส่งเชลยศึกกลับ
หลานสาวผู้เสียชีวิตและผู้พิการจากเหตุระเบิด BM21 ของเขมรตกใส่บ้าน วอนรัฐบาลและกองทัพ หันมาดูแลประชาชนก่อน ส่งเชลยศึกกลับ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ทีมข่าวได้ไปที่บ้านของนายปลอด โจรสา อายุ 88 ปี และนางฮุง โจรสา 2 สามีภรรยาที่โดนระเบิด BM21 ตกใส่บ้านเรือน จนเป็นเหตุทำให้นางฮุง โจระสา เสียชีวิต ส่วนนายปลอด ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนบ้านเรือนได้รับความเสียหายทั้งหลัง
ล่าสุดพบว่านายปลอด โจรสา พิการขาด้านซ้ายขาด ปัจจุบันกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง โดยมีนางสาวบังอร พรมเกตุ อายุ 37 ปี หลานสาว เป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด
ขณะที่บ้านเรือนของนายปลอด ที่ได้รับความเสียหายทั้งหลัง ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสร้างบ้านใหม่ ราคา 200,000 บาท แต่บ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่บริเวณโดยรอบที่ได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิด BM21 ได้รับการซ่อมแซมเพียงแค่บางส่วนเท่านั้น ขณะที่บางส่วนไม่ผ่านในเกณฑ์ จึงทำให้บ้านยังไม่ได้รับการซ่อมแซมอย่างเสร็จสมบูรณ์ดี
นางสาวบังอร หลานสาวนายปลอด เผยว่า ปัจจุบันตนเองต้องออกจากงานมาดูแลตา เพราะตาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้เลย ต้องมีคนคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านมา 3 เดือนแล้ว ครอบครัวก็ยังรู้สึกเศร้า เสียใจ เพราะได้รับผลกระทบทางจิตใจที่ต้องสูญเสียคนในครอบครัว และบางครั้งก็รู้สึกโกรธแค้นกัมพูชาที่ทำให้ชีวิตครอบครัวต้องมาเป็นแบบนี้
ส่วนกรณีที่รัฐบาลหรือกองทัพจะส่งคืนเชลยศึกทั้ง 18 คนในวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้ ยอมรับว่าไม่เห็นด้วยที่จะส่งเชลยกลับไป เพราะกังวลว่าหากส่งไปแล้ว กัมพูชาจะไม่ทำตามข้อตกลง แต่ตนในฐานะประชาชนก็ไม่มีสิทธิ์จะออกเสียงอะไรได้ ในเมื่อรัฐบาลและกองทัพตกลงกันกับกัมพูชาไปแล้ว ก็ทำได้แค่จำยอม
แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ก่อนที่รัฐบาลหรือกองทัพจะส่งเชลยศึกกลับประเทศหรือจะเปิดด่าน อยากให้หันมาดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาหรือได้รับการเยียวยาไม่ครบก่อน เพราะอย่างบ้านตัวเองอยู่หลังบ้านของตา ได้รับความเสียหายจากสะเก็ดระเบิดก็ได้รับการซ่อมแซมแค่บางส่วนเท่านั้น
อยากให้รัฐบาลและกองทัพเห็นใจประชาชนและทหารชั้นผู้น้อยที่ต้องมาบาดเจ็บ เสียชีวิตและพิการ จากเหตุการณ์ในครั้งนี้ อยากให้รัฐบาลหรือกองทัพปิดด่านถาวร ตัดขาดกันไปเลยกับประเทศกัมพูชา
Advertisement
