Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"อ้อ ไพรัช" ยันเดินหน้าจัดงานทวงคืนปราสาทตาควายคืน แม้ถูกผู้ใหญ่เบรก

"อ้อ ไพรัช" ยันเดินหน้าจัดงานทวงคืนปราสาทตาควายคืน แม้ถูกผู้ใหญ่เบรก

6 พ.ย. 68
18:19 น.
แชร์

"อ้อ ไพรัช" ยันเดินหน้าจัดงานทวงคืนปราสาทตาควายคืน แม้ถูกผู้ใหญ่ในจังหวัดเบรก อัดกลัวเกินเหตุ แฉถูกเหยีดเป็นงานเด็กแว้น-สร้างความเดือดร้อน

(6 พ.ย. 2568) "อ้อ ไพรัช คำมณี" อินฟลูเอนเซอร์ จ.สุรินทร์ ให้สัมภาษณ์ถึงการถูกสกัดดาวรุ่ง จัดงานทวงคืนปราสาทตาควาย ว่า ตนรู้สึกเหนื่อยมาก และเริ่มไม่อยากทำแล้ว แต่ตนได้จ่ายเงินมัดจำต่างๆ ไว้แล้ว จึงคิดว่าควรปรับมาจัดที่วัดแทน (วัดบึงบูรพา) ในเมื่อผู้ใหญ่ไม่อยากให้เราแสดงออกถึงความรักชาติ และอยากให้เราอยู่แบบที่เรียกในภาษาอีสานใช้คำว่า "มุๆ มิๆ" หรือให้อยู่ตามประสา ใครอยากเอาแผ่นดินไปก็ยกให้เขา ซึ่งหากคนไทยไม่สามัคคีกัน ตั้งแต่ประชาชนไปยังหน่วยงานภาครัฐ การคงไว้ซึ่งความเป็นชาติคงทำได้ยาก ส่วนคำสั่งของผู้ใหญ่ในพื้นที่นั้น ตนไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย แต่ทาง ผอ.โรงเรียน คงถูกกดดัน เพราะหลังประชุมแล้วมีลักษณะอาการซึมๆ เนื่องจากผู้ใหญ่จะให้รับผิดชอบหากเกิดอะไรขึ้น จึงไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่จัดงาน ซึ่งตนก็เข้าใจในจุดนี้ดี

"ผมมองว่าคงเป็นเพียงคำสั่งระดับพื้นที่ เนื่องจากเขากลัวเกินไป กลัวจนไม่ได้วิเคราะห์ ซึ่งคนที่สั่งห้ามเขาควรคุยกับผมว่างานเป็นอย่างไร และการจัดกิจกรรมนายกรัฐมนตรี คงไม่ห้าม เพียงแต่ให้อยู่ในความเหมาะสม ซึ่งเราเองก็รู้ว่าเป็นสถานที่ราชการ อยู่ในโรงเรียน และพื้นที่ตรงนี้สมัยก่อนเคยเป็นศูนย์อพยพในยุคสงครามเขมรแดง เพื่อจะได้เล่าความเป็นมาที่เราเคยช่วยเขมร ให้กับประชาชนได้รับฟัง และตนสัญญาไว้แล้วว่าจะไม่ด่ารัฐบาลไทย จะด่าแต่เขมรและ สมเด็จฮุน เซน ส่วนทางทหารในพื้นที่ตนได้พูดคุยแล้วซึ่งได้อนุญาตให้จัดได้ เพราะ รู้ว่าเราออกมาแสดงจุดยืนทวงคืนปราสาทตาควาย และทวงคืนแผ่นดินไทย"

ส่วนอาจถูกมองว่ากิจกรรมจะทำให้บรรยากาศ ความร่วมมือทั้ง 2 ประเทศไม่ดีหรือไม่จึงถูกสั่งเบรก "อ้อ ไพรัช" ยอมรับว่ามีส่วน จึงตัดสินใจทำที่โรงเรียน ตนไม่อยากสร้างความเดือดร้อนให้ใคร เพียงแต่ชาวจังหวัดสุรินทร์ไม่มีใครกล้าออกมาแสดงจุดยืนเพราะไม่มีแกนนำ ดังนั้นตนจึงทำให้ แต่ต้องอยู่ในกรอบเพราะก็ไม่อยากเดือดร้อนเช่นเดียวกัน ส่วนจะมีนัยยะแอบแฝงหรือไม่ ทั้งกลัวทำให้เขมรไม่พอใจ และกลัวเรามาปลุกปั่นนั้น ตนก็มองว่าเป็นเช่นนั้น กลัวจะมีการปลุกปั่น แต่กลับไม่เคยมาถามตนว่าจะงานรูปแบบไหน ทั้งที่ตนพยายามอธิบายมาตลอด

พร้อมย้ำว่า ผู้นำในจังหวัดมีความกลัวมากเกินไป แต่หากเป็นข้าราชการที่มีอายุไม่มากสามารถพูดคุยง่ายเข้าใจ แต่ถ้าเป็นข้าราชการใกล้เกษียณคุยยาก จนตอนนี้รู้สึกท้อเพราะบางคำพูดมีการดูถูกเหยียดหยาม เช่น เป็นกิจกรรมเด็กแว้นซ์ จะทำความเดือดร้อนให้บ้านเมือง ซึ่งตนพยายามใจเย็นไม่ตอบโต้ เพื่อให้ได้จัดงานได้ ทั้งนี้ยังยอมรับด้วยว่ารู้สึกแย่ที่ต้องเปลี่ยนสถานที่จัดงาน ส่วนเงินที่จ่ายไปไม่รู้สึกเสียดาย เนื่องจากวงดนตรีทุกวงมาช่วยด้วยใจจริง เช่น วงบิ๊กสุรินทร์ ค่าตัว 7-8 หมื่น แต่คิดค่าจ้างไม่กี่บาทพอได้ค่าน้ำมันกลับ

สรุปแล้วงานยังเดินหน้าต่อหรือไม่ รูปแบบงาน สถานที่เป็นอย่างไร "อ้อ ไพรัช" กล่าวว่า สถานที่จัดงานคือวัดบึงบูรพา บ้านโคกลาว ต.หนองใหม่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เพราะโบสถ์รวมถึงโรงครัวของวัดยังไม่แล้วเสร็จ ในเมื่อตนเสียเงินจ้างวงดนตรีแล้ว เห็นควรย้ายมาจัดในวัดแทน เพื่อจะได้เปิดรับบริจาคเพื่อทำวัดให้แล้วเสร็จ ซึ่งเงินบริจาคจะเข้าวัดทั้งหมด ส่วนเงินที่ตนจ่ายให้วงดนตรีจะรับผิดชอบเองไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ส่วนตัวไม่ได้มีการประสานอินฟลูเอนเซอร์ท่านใด เพราะมองว่าเป็นงานของคนสุรินทร์ แต่หากท่านใดมีความประสงค์ ท่านใดมีความรักชาติรักแผ่นดินก็สามารถเดินทางมาร่วมกิจกรรมได้ แต่ทั้งนี้ได้มีการพูดคุยกับไดมอนด์ เพราะทราบว่าต้องการมาร่วมงาน ทั้งนี้ประเมินว่าหากเป็นจุดเดิมที่จะจัดคนน่าจะมาร่วมงานไม่น่าจะต่ำกว่า 7 พันคน แต่เมื่อย้ายจุดมาที่วัดแล้วอาจจะมีคนมาร่วมประมาณหนึ่ง

"จะเป็นรูปแบบงานวัด จะเปิดงานด้วยการรำถวายพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เวลา 10.30 น. และวงดนตรี 4 วงจะแสดงไปช่วงเย็น ปิดท้ายด้วยวงบิ๊กสุรินทร์ ซึ่งหากใครจะมาค้าขายไม่มีการเก็บค่าสถานที่ ซึ่งอยากให้ทุกคนนำกิจกรรมเข้ามา เช่น ของเล่นเด็ก โดยจัดงานวันเดียว ไม่มีการค้างคืน"

ส่วนทำไมต้องออกมาทวงคืนปราสาทตาควาย "อ้อ ไพรัช" กล่าวว่า เพราะตนเป็นคนที่นี่ อ.ปราสาท บ้านห่างช่องจอมและปราสาทตาควาย 20 กิโลเมตร ซึ่งมีความรักบ้านเกิด และเป็นอินฟลูฯ คนเดียวที่บ้านติดชายแดน จึงอยากออกมาแสดงจุดยืน ทั้งนี้ช่วงที่มีการปะทะตนไม่เคยออกนอกพื้นที่แม้แต่วันเดียว อยู่ช่วยพี่น้องชายแดนช่วยทหาร เอาข้าวเอาน้ำ เอาน้ำมันไปส่งตลอด

เมื่อถามว่า เชื่อรัฐบาลเหรอที่บอกว่าเราไม่ได้เสียปราสาทตาควาย เราแค่เสียการควบคุม มีวิธีการเอาคืนแล้ว ขอให้ใจเย็นๆ "อ้อ ไพรัช" กล่าวว่า ตนไม่ค่อยเชื่อ ทั้งนี้ตนไม่ทราบวิธีการทำงานของรัฐบาล แต่กว่าเขมรจะได้ประสาทตาควายเขาก็สู้กับเราเช่นกัน จึงคิดว่าคงไม่คืนให้กับเราง่ายๆ ซึ่งขณะนี้มีการนำทหารขึ้นมาอยู่บนเขาเรียบร้อย ทั้งยังได้เปรียบเนื่องจากมีเนิน 350 ส่วนการทำงานของรัฐบาลอย่างไร ในการแก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ก็ดูเงียบๆ ตอนนี้ไม่ได้เสียแค่ประสาทตาควายแต่เสียประสาทคณาไปด้วย จึงไม่ค่อยเชื่อว่าจะสามารถนำแผ่นดินกลับคืนได้

ส่วนคำพูดของ นายกฯ ตกเป็นข่าวบ่อย เรื่องพูดเอื้อเขมร มีความเห็นอย่างไร เช่น อย่าพูดว่าเขมรขัดขวางเรากู้ระเบิด ไทยก็รุกเขมรเหมือนกัน อ้อ ไพรัช บอกว่า ตนรู้สึกเจ็บปวดมาก คนระดับผู้นำประเทศไม่สมควรพูดคำนี้ ซึ่งหากบอกว่าไทยรุกเขมรจริง ให้นายกรัฐมนตรี บอกหน่อยว่ารุกในพื้นที่ใด ส่วนรัฐบาลบริหารงาน 1 เดือนกว่า ในมุมแก้ปัญหาชายแดน เต็ม 10 ตนให้ 4 คะแนน เพราะถือว่าเป็นน้ำใจ ซึ่งหากให้ตามความเป็นเป็นจริงความรู้สึกคือ 1 คะแนน ซึ่งจริงๆ ไม่อยากให้ด้วยซ้ำ

ส่วนการทำงานของทหารอย่างไร โดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 2 ที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่โดยตรง "อ้อ ไพรัช" ระบุว่า เมื่อคืนตนได้นั่งคุยพลขับแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ทราบข้อมูลว่าในการรบครั้งที่ผ่านมา ผู้บัญชาการรบคือ แม่ทัพคนปัจจุบัน แต่ท่านเป็นคนไม่ค่อยพูดสื่อสารไม่เก่ง แต่ย้ำว่าส่วนตัวไม่ทราบว่าท่านเป็นคนอย่างไรเพียงแต่รับฟังข้อมูลมา ส่วนทหารทำงานในแยวหน้าคือชั้นผู้น้อย ขอเรียกร้องให้ทหารยศใหญ่ๆ ลงมาให้กำลังใจทหารชั้นผู้น้อยบ่อยๆ เพราะคนที่ลำบากเขาต้องการกำลังใจ

เมื่อถามว่า ในฐานะคนสุรินทร์ ปราสาทตาควาย มีความสำคัญอย่างไรกับคนในพื้นอย่างไร "อ้อ ไพรัช" ระบุว่า ประสาทตาควาย ย้อนไปเมื่อปี 2529 คนตำบลบักไดค้นพบ จึงเริ่มพัฒนาถนนปี 2539 อยู่ในความดูแลของไทยมาโดยตลอด แต่ตนไม่รู้ว่าเขมรขึ้นมาอยู่บนปราสาทตั้งแต่เมื่อไหร่ ใครเอาขึ้นมา ผลสุดท้ายวันนี้เราเสียสายตาควายรู้สึกเจ็บปวดและเสียศักดิ์ศรีเป็นอย่างมาก ซึ่งคนในพื้นที่ ต.บักได จะมีความผูกพันเป็นอย่างมาก ย้ำว่าเสียใจและอยากได้ปราสาทควายคืน

ส่วนมองว่าจะทำวิธีไหนถึงจะได้ประสาทตาควายกลับมานั้น "อ้อ ไพรัช" ระบุว่า ส่วนตัวมองว่าหากรบเราจะเสียเปรียบ เพราะทำเลเขาได้เปรียบในเนิน 350 และทหารเขมรเข้าไปอยู่ในตัวปราสาทหมดแล้ว ถ้ายิงจริงเราต้องยอมเสียสละชีวิตทหารหลายนายเราจึงจะยึดคืนได้ หรือหากใช้วิธีทางอากาศปราสาทจะพัง ถ้าเจรจาคงมีผลประโยชน์รวมถึงจะได้คืน แต่หากอยากจะได้คืนเร็วๆ ก็อาจต้องรบ ส่วนทหารที่เสียชีวิตในพื้นที่อาจจะเป็นการเสียเปล่า หากไม่สั่งหยุดยิง และสู้ต่อตนคิดว่าเขมรน่าจะอ่อนแรง และสามารถรักษาปราสาทได้ แต่มาตอนนี้ตนมองว่าโอกาสได้คืนริบหรี่ อยากฝากความหวังไว้ที่รัฐบาลช่วยเจรจาจะสามารถเอาเฉลย 18 คน แลกปราสาทได้หรือไม่

Advertisement

แชร์
"อ้อ ไพรัช" ยันเดินหน้าจัดงานทวงคืนปราสาทตาควายคืน แม้ถูกผู้ใหญ่เบรก