ชาวบ้านเสียใจมากที่เขมรยึดปราสาทตาควาย จะทำทุกทางเพื่อให้ได้คืน
ชาวบ้านเสียใจมากที่เขมรยึดปราสาทตาควาย เสียใจที่นายกฯพูดว่า "ไทยล้ำดินแดนเขมร" ยันชาวบ้านไม่ยอม จะทำทุกทางเพื่อให้ได้ประสาทตาควายคืน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นางเอย รักษะประโคน อายุ 69 ปี ชาวบ้านใกล้ปราสาทตาควาย เผยว่า ครั้งสุดท้าย ที่ตนเองขึ้นไปบนปราสาทตาควาย คือเช้าวันที่ 23 กรกฎาคม (ก่อนปะทะ 1 วัน) ซึ่งตอนนั้นก็มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นตนเองยังพบนักท่องเที่ยวที่มาจากจังหวัดกาญจนบุรี จึงได้เข้าไปสอบถาม และนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ บอกกับตนว่าได้ข่าวว่า ปราสาทตาควาย ทางกัมพูชาจะเอา จึงตัดสินใจพากันมาเที่ยวก่อน
ซึ่งวันนั้นที่ตนเองขึ้นไป ได้พบกับทหารที่เพิ่งย้ายมาใหม่ 3 คน และทหารกลุ่มนี้ได้เข้ามาพูดคุยกับตนว่า มาเที่ยวบ่อยหรือไม่ ตนเองจึงตอบไปว่ามาเที่ยวบ่อย และใน 1 ปี จะขึ้นมาหลายครั้ง ซึ่งขณะนั้นก็เห็นว่ามีชาวกัมพูชาขึ้นมาเป็นจำนวนมาก และก็มีทหารกัมพูชาอยู่ด้วย ซึ่งขณะนั้นตนเองยังถามทหารไทยด้วยว่าทำไมถึงให้กัมพูชาขึ้นมาบนปราสาทตาควายเยอะขนาดนี้ ทหารก็ตอบกลับมาว่า คนกลุ่มนี้เป็นนักท่องเที่ยว หลังจากนั้นตนเองก็กลับลงมา หลังจากนั้นเช้าของวันที่ 24 กรกฎาคม ก็เกิดการปะทะ ตนเองอพยพไปอยู่ศูนย์อพยพ และก็ทราบข่าวว่าทหารที่ตนเองคุยด้วยเสียชีวิตแล้ว หลังทราบข่าวตนเองเสียใจมาก และสงสารทหารมากๆ เพราะหากเสียประสาทตาควายไปจริงๆ เหมือนทหารนั้นต้องตายฟรี
ส่วนเรื่องของการบวงสรวง บนปราสาทตาควาย ชาวบ้านจะขึ้นไปประกอบพิธีกัน วันที่ 22 เมษายน ของทุกปี เพื่อไว้อาลัยและทำบุญให้กับทหารที่เสียชีวิตเมื่อปี 2554 รวมถึงจะมีการทำบุญขอพร ปราสาท ให้ชาวบ้านอยู่ดีมีสุข ซึ่งพื้นที่ปราสาทตาควายนั้นศักดิ์สิทธิ์ เวลาไปขอพร หรือขอหวย ส่วนมากก็จะสำเร็จ เวลาบวงสรวง จะมีการนำ หัวหมู และนางรำ เพื่อมารำไหว้บวงสรวงซึ่งตนเองก็เป็นหนึ่งในนางรำ ที่รำไหว้บวงสรวงปราสาทตาควาย ส่วนปีหน้าจะได้ขึ้นไปจัดกิจกรรม บนปราสาทตาควายเหมือนที่เคยทำหรือไม่ ก็ยังไม่ทราบ เพราะหากทหารเขมรยึดได้จริงๆก็คงจะไม่ได้ขึ้นไปที่ปราสาทตาควายอีก
วันนี้ทหารกัมพูชายึดปราสาทตาควายไป ตนเองในฐานะชาวบ้านในพื้นที่รู้สึกเสียใจมาก และร้องไห้ทุกวัน ทุกครั้งที่มีข่าวประสาทตาควายตนเองจะนั่งดูตลอด แต่หากเมื่อไหร่เห็นข่าวนายกรัฐมนตรี ตนเองไม่อยากจะดู เพราะนายกรัฐมนตรี พูดว่า "ไทยล้ำเขตแดนกัมพูชา" ซึ่งตนเองรับไม่ได้ และเสียใจมากที่มีนายกฯ แบบนี้
ส่วนการจะเอาประสาทตาควายคืนคิดว่าค่อนข้างยาก แต่อย่างไรก็ตามชาวบ้านในพื้นที่ไม่ยอมและอยากจะได้ประสาทตาควายกลับคืนมา เพราะถ้ากัมพูชา ยึดปราสาทตาควายได้ มองว่าอนาคต ก็ต้องยึดลงมาอีกเรื่อยๆ แน่นอน
ส่วนกรณีสัปดาห์หน้า จะมีการรวมพล แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ว่าชาวสุรินทร์ไม่ยอมเสียประสาทตาควาย ตนเองอยากจะไปร่วมด้วย แต่หากสุดท้าย หากตนเองมีธุระหรือไม่ได้ไปด้วยก็จะซื้อน้ำไว้คอยสนับสนุน และหากสุดท้ายจำเป็นต้องเกิดการปะทะกันอีก ถึงแม้ว่าจะหวาดกลัวแต่ก็พร้อมต่อสู้
ขอยืนยันว่ากัมพูชาไว้ใจไม่ได้และไม่เคยทำตามข้อตกลงใดๆทั้งสิ้น อยากฝากบอกนายกรัฐมนตรีว่า ปราสาทตาควายเป็นของไทย และอยากได้ปราสาทตาควายคืน อยากให้ทำอย่างไรก็ได้ ที่จะสามารถเอาประสาทตาควายคืนกลับมาให้กับชาวบ้าน
Advertisement
