นายฝันเด่น จรรยาธนากร (เล็ก) กล่าวถึงประเด็นที่มีการโพสต์ว่า "ถ้าจะแพ้ไม่ใช่เพราะเขมรเก่ง แต่เพราะไทยเตะตัดขากันเองนี่ล่ะ" นั้น
ตนมองว่า ในมุมนี้เราคงไม่แพ้ในเรื่องของยุทธศาสตร์ หรือการทหาร เพราะเชื่อในศักยภาพของกองทัพ แต่ในการส่งกำลังใจไม่ว่าจะเป็น กัน จอมพลัง บุ๋มปนัดดา เจ๊เอ๋ และจิตอาสากลุ่มอื่นๆ ที่โดนแซะอย่างที่ กัน จอมพลัง โดน ซึ่งอาจจะเป็นการบั่นทอนความรู้สึก
ส่วนตัวเชื่อว่าคนที่แกร่งที่สุดต้องมีความรู้สึกได้แม้กระทั่งตัว กัน จอมพลัง ซึ่งไม่สามารถตอบแทน กัน จอมพลัง ได้ว่ารู้สึกมากน้อยขนาดไหนแต่ในมุมที่ตนปฏิบัติภารกิจร่วมกันมา ก็ได้แต่ส่งกำลังใจให้กันและกันว่าสู้ๆ เรารู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่เราทำเราทำเพื่อใคร และสิ่งที่ได้มาแล้วจ่ายออกไปมันมีตัวเลขที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองหรือกลุ่มที่เห็นต่างว่าสิ่งที่ กัน จอมพลัง ทำควรเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หรือหน่วยงานราชการ ซึ่งหากพูดในความเป็นจริง ปฏิบัติงานได้ช้าเพราะติดในเรื่องของงบประมาณซึ่งก็เข้าใจในบริบท ในฐานะจิตอาสาไม่ใช่ว่าเราจะทำเกินหน้าเกินตาหน่วยงานรัฐ แต่บางอย่างเรารู้ว่าการขยับของหน่วยงานรัฐแต่ละอย่างมันมีขั้นตอนอย่างมาก ฉะนั้นหากภาคเอกชนทำเร็วทำได้ไวสนับสนุนได้ก่อนมันคือสิ่งดีงามอยู่แล้ว
ส่วนตัวก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมนักการเมืองถึงออกมาท้วงติงการทำงานของจิตอาสาในช่วงนี้ เพราะก่อนหน้านี้ที่มีสถานการณ์รุนแรง ก็เงียบกันไปหมดไม่มีแอ็คชั่นอะไรมากมาย แต่พอมาถึงตอนนี้เล่นกันหนักมาก ถึงขนาดที่เรียกการตรวจสอบกันเกิดขึ้น ยังดีที่ กัน จอมพลัง จดเป็นมูลนิธิอย่างชัดเจนและมีแผนกบัญชี ฉะนั้นการยื่นเอกสารเป็นหมื่นหน้า คนที่เรียกร้องการตรวจสอบต้องมานั่งดูทุกหน้าเลย ถ้าเกิดคิดจะตรวจสอบให้มันชัดเจน ซึ่งไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องความรู้สึกระหว่างบุคคลหรือระหว่างองค์กร หากเป็นเรื่องระหว่างบุคคลที่ทิ่มแทงกัน ก็ต้องมานั่งดูกันข้อต่อข้อ ซึ่งวันพรุ่งนี้ไม่รู้ว่า กัน จอมพลัง จะสามารถเคลียร์ได้อย่างไรบ้าง
ผู้สื่อข่าวยังได้ถามอีกว่าการที่นักการเมืองออกมาตรวจสอบมูลนิธิหรือจิตอาสาต่างๆ ในช่วงนี้ถือเป็นการดีที่ช่วยตรวจสอบกลุ่มจิตอาสาบางกลุ่ม ที่ฉวยโอกาสใช้สถานการณ์นี้ในการกระทำความผิดรับเงินบริจาคหรือไม่ นายฝันเด่น เผยว่าเรื่องนี้ตนได้พูดคุยกับเจ๊เอ๋ ว่าหากจะตรวจสอบต้องตรวจสอบทุกกลุ่มจิตอาสาทุกมูลนิธิ ที่มีการเรียกรับบริจาคทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะเจาะจงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือคนใดคนหนึ่ง ในเมื่อเราเรียกร้องมาตรการความเท่าเทียมกัน ฉะนั้นต้องโดนเหมือนกันหมดไม่ว่าจะเป็นใครก็แล้วแต่ เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นการละเว้นปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ฉะนั้นหากจะตรวจสอบเรียกมาทุกมูลนิธิทุกหน่วยให้สรรพากรมาตรวจสอบ ไข่เขียวก็ผ่านไข่แดงก็ติดแค่นั้น
ส่วนกลุ่มจิตอาสาที่ฉวยโอกาสเห็นจังหวะชาวบ้านเดือดร้อนแล้วทำทีเป็นรับบริจาคอ้างว่ามาช่วยชาวบ้าน แต่จริงแล้วกลับถึงมือชาวบ้านไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย มุมนี้ตนก็ได้เห็นทางโซเชียลด้วยเช่นกัน มีทั้งการระดมทุน เช่น ได้ 100 มอบจริงแค่ 5 ซึ่งตรงนี้มันอยู่ที่หลักสามัญสำนึกขั้นพื้นฐานของคนว่าคุณจะฉวยโอกาสสิ่งเหล่านี้มาให้ให้เพื่ออะไร ชาวบ้านชายแดนก็เดือดร้อนประเทศชาติก็เดือดร้อน แต่คุณมาหากินกับความเดือดร้อนที่ง่าย คุณก็ไม่ต่างจากสแกมเมอร์ และหากจะมองในมุมนั้นคุณก็คือสแกมเมอร์คนหนึ่ง เพียงแต่ว่าใช้หลักการง่าย ๆ ใช้ความเอื้ออาทรหรือการแบ่งปันของคนไทยกับโอกาสครั้งนี้ หากมองในมุมแย่ ๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับสแกมเมอร์อีกรูปแบบหนึ่ง
ส่วนในกรณีที่ตนเคยโพสต์เกี่ยวกับเรื่องรักชาติคลั่งชาติ ส่วนนี้เป็นนัยยะที่พูดกันมาตั้งตั้งแต่เกิดเหตุความไม่สงบในประเทศประเทศไทยมาตลอด
เรื่องคำว่ารักชาติทุกคนรักชาติแต่การแสดงออกไม่เหมือนกันไม่เท่ากัน แล้วแต่วาระโอกาสและกลุ่มก้อนที่จะสนับสนุนกัน ส่วนคำว่าคลั่งชาติบางครั้งในวาทะกรรมที่เกิดขึ้นเหมือนกับแซะ แงะ งัด เช่น แบบนี้เกินคำว่ารักแล้วทำไมต้องติดธงให้เต็มตัว เต็มบ้าน ซึ่งบางคนก็มองว่าสิ่งที่เราแสดงออกคือการคลั่งชาติ ซึ่งหากเขายัดเยียดคำว่าคลั่งชาติให้เรามันก็ไม่ผิดที่เราจะเป็นอย่างนั้น แต่ถามว่าเราคลั่งชาติแล้วผิดไหม เราฝืนกฎระเบียบทางราชการ หรือกฎหมายหรือไม่ ซึ่งไม่มีก็ไม่เห็นเป็นเรื่องที่ต้องละอายกับการถูกตราหน้าว่าเป็นคนต่างชาติ แต่บางครั้งเป็นสิ่งสะท้อนสำหรับคนที่มาหยามความรู้สึกในสิ่งที่เราเป็น ซึ่งสิ่งที่โพสต์ไปไม่ได้ระบุถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่หากใครรู้สึกไม่ดีกับสิ่งที่ตนโพสต์ไปก็แสดงว่าเห็นตรงข้ามเพียงเท่านั้น เพราะทุกคนเรียกร้องประชาธิปไตย ฉะนั้นตนมีสิทธิ์พูด ตนถูกด่าแบบเจาะจงตัวด้วยซ้ำ เพราะมีหน้าตาในสังคมที่เป็นดารายุค 90 หรือตกยุคอะไรต่างๆ แต่ตนก็ตอบแบบกว้างๆ แล้วแต่จะพิจารณาว่าจะเป็นใคร.
Advertisement