วันที่ 17 ต.ค. 68 ที่จ.นครปฐม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พระอารามหลวงจังหวัดนครปฐม ได้รับการแจ้งประสานงานจากประชาชนว่า มีชายสูงวัย แต่งกายคล้ายพระ ได้มีการออกมาขอข้าวกิน และขอเงินจากชาวบ้าน บริเวณร้านข้าวหมูแดง ถนนเทศาซอย1 เขตเทศบาลนครนครปฐม จ.นครปฐม และได้เดินหลบเข้าไปในศาลเจ้าจีนที่อยู่ห่างไปไม่ไกล จึงได้มอบหมายให้พระวินยาธิการวัดไผ่ล้อม ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ และได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์ สภ.เมืองนครปฐมให้ร่วมเข้าตรวจสอบ
โดยเมื่อพระวินยาธิการได้เข้าตรวจสอบ พบชายสูงวัยแต่งกายเป็นลักษณะคล้ายพระจีนจึงได้เข้าสอบ และขอตรวจสอบเอกสารความเป็นพระ แต่เมื่อพบกับชายคนดังกล่าว ทั้งพระและเจ้าหน้าที่ต่างร้องเสียงเดียวกันว่า "อีกแล้วหรือ" เพราะชายคนที่แต่งกายลักษณะพระดังกล่าว คือนายเรืองชัย อายุ 70 ปี หรือที่จดจำกันได้คือ หลวงตาเวิร์คฟอร์มโฮม ซึ่งเคยถูกจับสึกไปแล้วถึงสามครั้ง เนื่องจากไม่สังกัดวัดแ ละมีการออกเอกสารหนังสือสุทธิปลอมมาแล้ว
จากนั้นหลวงพี่น้ำฝนได้ติดตามเข้ามาตรวจสอบ และเข้าสอบถามข้อมูล โดยมีสีหน้าเอือมระอา แต่ยังมีรอยยิ้ม ซึ่งสอบถามว่าเหตุใดจึงแต่งกายเป็นแบบพระจีน และสังกัดอยู่วัดใด ปรากฏว่านายเรืองชัยได้ตอบเพียงสั้นๆ ว่าไม่ได้ไปบวชที่วัดไหน เป็นการภาวนาจิตด้วยตัวเอง และแต่งกายเป็นพระจีน คล้ายอันนัมนิกาย ซึ่งหลวงพี่น้ำฝนบอกว่า ตอนนี้เท่ากับว่านายเรืองชัยไม่ใช่พระ จึงไม่ใช่อำนาจการตัดสินใจของอาตมา และขอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจึงได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.อชิรวัตติ์ ถาวรเจริญวัด ผกก.สภ.เมืองนครปฐม และนางพัทยา ทองเสภี ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม เพื่อให้ร่วมเข้าตรวจสอบ
ขณะเดียวกันนายเรืองชัยได้พยายามใช้วลีเดิมคือ “ขอโอกาสให้ผมอีกสักครั้ง” ซึ่งหลวงพี่น้ำฝนได้แจ้งว่า ท่านพูดคำนี้มาหลายครั้งแล้ว ต่อไปก็คือหน้าที่ของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองที่จะเป็นผู้พิจารณา
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปทำการสอบสวน และตรวจสอบประวัติทั้งหมด ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐมได้ยืนยันว่า การแต่งกายลักษณะดังกล่าวเป็นการแต่งกายลักษณะของการแบบพระสงฆ์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่งกาย หรือใช้เครื่องหมายที่แสดงเป็นพระภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวชในศาสนาใด โดยไม่ชอบซึ่งจะมีโทษทั้งจำทั้งปรับ
โดยวันนี้นายเรืองชัยจะถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.เมืองนครปฐมก่อนจะมีการส่งฟ้องศาลในวันพรุ่งนี้ เท่ากับเป็นการดำเนินคดีทางกฎหมายกับนายเรืองชัยอย่างเด็ดขาด
นายเอ๋ (นามสมมติ) อายุ 36 ปี เจ้าหน้าที่มูลนิธิเป๋าเก็งเต็ง ซอยบริพัตร บอกว่า เพิ่งเคยเห็นนายเรืองชัยเข้ามาที่ศาลเจ้าจีนในวันนี้ ซึ่งปกติจะไม่มีคนพลุกพล่าน แต่วันนี้ได้มีการรวมตัวกันของเจ้าหน้าที่ เพื่อเตรียมตัวในการเข้าสู่ช่วงเทศกาลถือศีลกินเจ ซึ่งที่นี้จะมีคนเข้ามาเป็นจำนวนมาก เพราะประตูไม่ได้ปิด คาดว่านายเรืองชัยน่าจะขี่รถจักรยานยนต์โดยแต่งกายเป็นชุดปกติทั่วไป ก่อนจะมาเปลี่ยนเป็นชุดพระจีนแล้วเดินออกไปขอข้าวกิน ที่บริเวณถนนเทศาซอย1 ก่อนจะมีหลวงพี่น้ำฝน และตำรวจเข้ามาติดตามจับกุม และตนเองจำได้ว่าเขาเคยถูกจับเรื่องการแต่งกายเป็นพระ และเป็นพระอาศัยอยู่ที่บ้านมาแล้ว ไม่คิดว่าจะมาถึงสถานที่แห่งนี้อีก
น.ส.ปุ้ย (นามสมมติ) อายุ 40 ปี แม่ค้าขายข้าวโพด ที่หน้าร้านขายข้าวหมูแดง บอกว่า พบพฤติกรรมของนายเรืองชัยมาหลายวัน ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ได้แสดงความระอาเพราะเจ้าตัวจะแต่งกายเป็นพระจีนมาทุกวัน ที่ร้านเปิดขาย โดยจะมาขอกินข้าว จากนั้นเมื่อกินข้าวเสร็จก็จะขอเงิน เมื่อขอเงินเสร็จอยากกินอะไรก็เดิน ขอให้คนนั้นคนนี้ซื้อให้ ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ดูแล้วไม่ดี ทั้งยังมีลักษณะที่เป็นการแสดงความน่ารังเกียจ คือเมื่อรับประทานอาหารอยู่มักจะขากเสลดถุยลงพื้นเสียงดัง สร้างความไม่สบายใจให้กับลูกค้า และเป็นที่น่าสะอิดสะเอียน จนวันนี้รู้สึกว่าทนไม่ไหว จึงได้โทรประสานไปยังหลวงพี่น้ำฝน และมีการเข้ามาติดตามจับกุมถึงได้รู้ว่ามีการแต่งกายหลอกว่าเป็นพระ ซึ่งตนเองก็เคยเห็นเขาตามหน้าสื่อออนไลน์ และตามหน้าข่าว ไม่คิดว่าจะกลับมาก่อเหตุซ้ำซากอย่างนี้อีก อยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างจริงจัง ถือว่าโทรหาหลวงพี่น้ำฝนแล้วดำเนินการได้จบสิ้นวันนี้ถือเป็นเรื่องดีเหมือนกัน
ขณะที่พ.ต.ท.ตะวัน วัฒนรังสรรค์ รองผู้กำกับการปราบปราม สภ.เมืองนครปฐม แจ้งว่า ได้รับมอบหมายจากผู้กำกับการฯวันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบผู้ต้องหาแต่งกายคล้ายพระ ซึ่งได้มีการดำเนินการควบคุมตัวมาทำการสอบสวน โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาได้ยืนยันว่าการแต่งกายลักษณะแต่งกายคล้ายกับพระภิกษุสงฆ์จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ตอนนี้ได้ทำบันทึกแล้วส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปตามกระบวนการ
Advertisement