สำนักข่าว The Korean Times สื่อของเกาหลีใต้ รายงานว่า ความกังวลเพิ่มสูงขึ้นหลังการเสียชีวิตของนักศึกษา ขณะที่ชาวเกาหลีอีกคนหายตัวไป
ในขณะที่ทางการเกาหลียังคงสืบสวนการเสียชีวิตล่าสุดของนักศึกษาวัย 22 ปีในประเทศกัมพูชา ก็ได้มีอีกกรณีหนึ่งเกิดขึ้น โดยเป็นเรื่องของชายวัย 30 กว่าปีจากเมืองแทกูที่หายตัวไปไม่นานหลังเดินทางถึงประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งนี้
ตามรายงานของสถานีตำรวจทัลซอ (Dalseo) เมืองแทกู เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ครอบครัวของชายวัย 34 ปี นามสกุลยาง (Yang) ได้เข้าแจ้งความคนหายหลังจากที่ขาดการติดต่อกับเขาเมื่อสองวันก่อนหน้า
นายยางได้เดินทางออกจากเกาหลีเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม โดยบอกกับครอบครัวว่าจะไปใช้เวลา "สองถึงสามสัปดาห์ในกัมพูชาเพื่อชำระหนี้สิน" ก่อนขึ้นเครื่องบินไปยังกรุงพนมเปญ เขาได้ส่งรูปถ่ายตั๋วเครื่องบิน และยังคงติดต่อกับครอบครัวในช่วงสองวันแรกที่อยู่ต่างประเทศ
"พ่อของนายยางเล่าว่า 'เขา (ลูกชาย) ส่งข้อความมาบอกพวกเราว่าเขาถึงที่พักแล้ว และกำลังจะไปที่สำนักงานในเช้าวันรุ่งขึ้น'
แต่การติดต่อก็ขาดหายไปอย่างกะทันหันราว 20:30 น. ของวันที่ 11 ตุลาคม เมื่อนายยางเขียนข้อความมาว่า 'เรื่องต่างๆ เป็นไปอย่างช้าๆ ผมกำลังทำงานกับคนจีนบางคนอยู่ — เดี๋ยวจะติดต่อกลับไปอีกทีนะ' หลังจากนั้นก็ไม่มีใครได้ยินข่าวจากเขาอีกเลย
พ่อของนายยางพยายามโทรติดต่อซ้ำๆ ผ่านทาง KakaoTalk แต่ไม่ได้รับการตอบกลับใดๆ เมื่อหมดหนทาง ท่านจึงโทรศัพท์ไปยังสถานทูตเกาหลีประจำประเทศกัมพูชา แต่กลับได้รับคำตอบว่าลูกชายของท่านต้องรายงานสถานการณ์ของตัวเองโดยตรง"
"พ่อของนายยางกล่าวว่า 'สถานทูตบอกว่าบุคคลที่เป็นเรื่องต้องรายงานสถานที่และสถานการณ์ของตัวเองโดยตรง' เว็บไซต์ของสถานทูต ซึ่งได้รับการปรับปรุงเมื่อเดือนกันยายน ระบุให้เหยื่อของการหลอกลวงด้านงานหรือคดีถูกกักขังต้องส่งรายละเอียดผ่านทางเทเลแกรม ซึ่งรวมถึงตำแหน่งที่อยู่ ข้อมูลติดต่อ ภาพถ่ายอาคาร สำเนาหนังสือเดินทาง ภาพถ่ายปัจจุบัน และวิดีโอสั้นๆ ที่ระบุว่าพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ
ด้วยความรู้สึกหมดหนทาง พ่อของนายยางจึงเข้าแจ้งความคนหายกับตำรวจท้องถิ่นในช่วงเช้าของวันที่ 12 ตุลาคม 'ผมไม่เคยคิดเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับลูกชายของผมได้ ผมแค่หวังว่าเขาจะมีชีวิตอยู่และได้กลับบ้าน' ท่านกล่าวกับหนังสือพิมพ์ฮันกุก อิลโบ"
"เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า 'เรากำลังดำเนินการตามขั้นตอนปกติเพื่อแจ้งกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง' แต่ปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม โดยอ้างว่าอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน"
Advertisement