เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 14 ต.ค. 68 ที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นายพิสนธ์ แก้วพรรณา ชาวบ้าน จ.น่าน ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังเดินทางมาบ้านหนองจาน เพื่อให้กำลังใจทหารไทย ว่า ตนเดินทางมาจุดบ้านหนองจานเพื่อให้กำลังใจทหาร รวมถึงแนวหน้าคือชาวบ้านและสื่อมวลชน ซึ่งเราได้มีการดูข่าวเหตุการณ์ไม่จบสักที และอยากจะให้เหตุการณ์จบไวๆ ชาวบ้านบริเวณนี้จะได้ทำมาหากินได้และจะได้ปลอดภัย รวมถึงพี่น้องทหารที่ต้องมาเหนื่อย จะได้ไม่ต้องมาอดหลับอดนอน โดยเหมือนได้รับความกดดันอยู่ฝ่ายเดียว ซึ่งจริงๆตนมองว่าไม่ถูกต้องและอยากให้จบ
“ ถ้าหากถามว่าอยากให้ลุยไหม ตนมองว่าอยากให้ลุยจะได้จบ แต่ถ้าลุยมันก็จะเป็นเรื่องใหญ่ ใจจริงถ้าหากถามเพื่อนๆหรือตนเองนั้นอยากให้ลุย”นายพิสนธ์ กล่าว
เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเรามีความคิดเห็นอย่างไรกับทางกัมพูชา ที่ออกมากดดันทหารไทยบริเวณชายแดน นายพิสนธ์ กล่าวว่า ทางฝ่ายทหารและเจ้าหน้าที่ภาครัฐไทย พยายามใช้ความอ่อนโยน คือการเจรจาแต่พอจะเจรจาก็พบว่ากัมพูชาคบไม่ได้จริงๆและยังมีความพยายามใช้เด็ก คนชรา และพระ ซึ่งไม่รู้ว่าพระจริงหรือไม่ มากดดันทหารไทย ตนมองว่ามันไม่ถูกต้อง
เมื่อถามว่าการที่ กัน จอมพลัง ได้นำรถเครื่องเสียงเข้าไปด้านในส่วนตัวมีความคิดเห็นว่าอย่างไรนั้น นายพิสนธ์ กล่าวว่า ดีครับ ซึ่งตนดูข่าวผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นนักสิทธิมนุษยชนออกมาว่าจะทำให้คนกัมพูชาหนวกหูนอนไม่หลับนั้น ตนมองว่าไม่เห็นด้วยเพราะตนเห็นด้วยกับ กัน จอมพลัง เพราะกดดันและอยากให้หูแตกตายไป
ส่วนที่ด้านของนักสิทธิมนุษยชนบอกว่าจะไปเพลี่ยงพล้ำต่อเวทีโลกเวลาที่มีการหารือกัน นายพิสนธ์ มองว่า ตามที่ดูข่าวต่างๆ มองว่าอย่าไปแคร์ ฟ้องๆไป เพราะเราทำในผืนแผ่นดินเราและอยู่ในผืนแผ่นดินไทยซึ่งมันคงฟ้องได้แต่คงไม่มีผลและเราเชียร์ให้ไทยชนะเชื่อว่าได้เปรียบทางเวทีโลกและหน้างานจริง
เมื่อถามว่าตอนนี้มีการนำรถเครื่องเสียงออกไปแล้วมองว่าจะเป็นชัยชนะของกัมพูชาได้หรือไม่ นายพิสนธ์ ระบุว่า มันทำให้เขามีพลังขึ้น เพราะไม่มีใครทำให้เขาหนวกหูหรือเขานอนไม่หลับ แต่ถ้าถามว่าจะชนะหรือไม่นั้น ตนมองว่าไม่ชนะอย่างไรฝั่งไทยของเราก็ชนะ
เมื่อถามว่ามีอะไรอยากบอกทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในตอนนี้หรือไม่ นายพิสนธ์ กล่าวว่า ให้ให้กำลังใจอยากให้ทหารมีใจที่เข้มแข็ง และอยากให้ทหารปลอดภัยทุกคน พร้อมย้ำว่าทหารไทยทำหน้าที่ดีมากๆแล้วดีกว่าผู้ต่อต้าน
เมื่อถามว่ามีความรู้สึกอะไรที่อยากจะบอกกองทัพอีกหรือไม่ เพราะตอนนี้ความเคลื่อนไหวคือไม่ได้มีการเปิดเผยในเรื่องของยุทธวิธีทางทหาร นายพิสนธ์ ระบุว่า เป็นสิ่งที่ดีเพราะความลับคือความลับ ไม่อยากเปิดเผย อย่างทางด้านของผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา ที่ให้สัมภาษณ์ไปที่บอกว่าเขาทำในผืนแผ่นดินไทย เราไม่แคร์อะไร ตรงนี้มองว่าถูกต้องแล้ว
Advertisement