จากกรณีศูนย์ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในภาคตะวันออก (IMF) ได้โพสต์ตามหาญาตินาย เมธาชาญ ยอแสง หรือ มีน อายุ 24 ปี ซึ่งเป็นเชฟไทย ชาว อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช โดยมีข้อความว่า “ใครรู้จักน้อง มีเบอร์ติดต่อญาติ รบกวนทักหาผมหน่อย ด้วยหลักมนุษยธรรมบนโลกใบนี้ ตอนนี้น้องป่วยนอนอยู่ข้างถนนไม่มีสภาวะที่ช่วยตัวเองได้ และถูกมองเมินจากโรงพยาบาล ของประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องด้วย น้องไม่มีเงิน และไม่มีเอกสารติดตัว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นน้องจะโดนคดีหรือมีปัญหาอะไรมา คนไทยต้องได้กลับบ้านครับ จะมีคดีหรือจะมีอะไรก็แล้วแต่ ต้องส่งกลับมาที่ประเทศไทยครับ ผมช่วยทุกคนที่เป็นคนไทย เพราะว่าคนไทยไม่เคยทิ้งกันครับ”
ล่าสุดวันนี้ (8 ต.ค. 68) ตัวแทนศูนย์ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในภาคตะวันออก ได้ติดต่อไปยัง พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ กองกำลังบูรพา ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 เพื่อประสานในการนำร่างผู้เสียชีวิตกลับมายังประเทศไทย และทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตก็จะเดินทางมารับร่างในวันนี้ ก่อนนำไปภูมิลำเนาที่ จ.นครศรีธรรมราช
โดยตัวแทนศูนย์ประสานงานช่วยเหลือคนไทยในภาคตะวันออก เปิดเผยว่า หลังได้รับเรื่องเมื่อวานนี้ (7 ต.ค.) ตนก็ประสานเรื่องนี้กับ พ.อ.ชัยณรงค์ ในการนำผู้เสียชีวิตกลับมารักษาในโรงพยาบาลของไทย และได้โพสต์เฟสบุ๊กตามหาครอบครัวของผู้เสียชีวิต จากนั้นได้พูดคุยกับแม่ของผู้เสียชีวิต ซึ่งตนก็รับปากกับแม่ว่าจะช่วยน้องให้ได้กลับประเทศไทย แต่สุดท้ายก็ได้แค่ร่างที่ไม่มีลมหายใจ เพราะน้องเสียชีวิตแล้ว
ส่วนตัวรู้สึกหดหู่เนื่องจากตั้งแต่รับเรื่องเมื่อเช้าวานนี้ ตนเองได้วิดีโอคอลพูดคุยกับผู้เสียชีวิต ตอนนั้นเจ้าตัวยังพูดคุยได้ปกติ บอกเพียงว่ามีอาการปวดท้อง แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก และเหนื่อย เท่าที่ดูอาการน้องไม่ได้หนักอะไรยังสามารถพูดคุยถามตอบรู้เรื่อง ตนเลยมีการโพสต์ประกาศตามหาญาติและมีคนแชร์โพสต์ต่อ จึงประสานไปหลายๆ ที่เนื่องจากเป็นเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดน จากนั้นจึงมารู้ข่าวว่าน้องเสียชีวิตช่วง 16.00 น.วานนี้ ส่วนตัวก็งงจึงพยามเช็คข่าวเนื่องจากกังวลเรื่องข่าวปลอม จึงไม่เชื่อ กระทั่งแม่ของน้องโทรมาร้องไห้ ตนยังบอกไม่ให้แม่เชื่อข่าวดังกล่าว เนื่องจากยังไม่เห็นหลักฐาน และภาพว่าน้องเสียชีวิตจริงหรือไม่ พอเช็กแล้วทราบว่าน้องเสียชีวิตแล้ว ตอนนี้ยังไม่รู้จะบอกกับครอบครัวเขาอย่างไร
สิ่งที่ทำให้ตนรู้สึกสลดใจคือ ตัวน้องพยายามที่จะกลับประเทศไทยให้ได้ โดยมีทีมงานของตนพาน้องมาหน้าด่าน ผู้เสียชีวิตยังใส่กางเกงตัวเดียวเดินเข้าไปขอเจ้าหน้าที่ฝั่งกัมพูชา เพื่อจะกลับประเทศไทย แต่สุดท้ายก็ถูกปฏิเสธ ตนมองว่าตอนนี้ด่านปิด การพาคนไทยกลับประเทศเป็นเรื่องที่ยาก เบื้องต้นทราบว่าชายคนดังกล่าวโดนปฏิเสธการเข้ารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาล เมื่อพาไปถึงโรงพยาบาลไม่รับ โดยพยายามสอบถามสาเหตุที่ไม่รับชายคนดังกล่าวเข้ารักษาที่โรงพยาบาล ได้รับคำตอบว่า 1.ไม่มีเอกสาร 2. ไม่มีเงิน ทางโรงพยาบาลก็ไม่รับรักษาอยู่แล้ว
ส่วนประเด็นการเข้าไปในกัมพูชา จากการที่ตนได้พูดคุยกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตก็ยืนยันว่าเข้าไปทำงานโดยถูกต้อง เป็นเชฟอยู่บนเรือ แต่ครอบครัวไม่ทราบว่าผู้ตายไปโผล่อยู่ที่กัมพูชาได้อย่างไร ซึ่งเบื้องต้นก็ไม่ทราบรายละเอียด เนื่องจากปกติคนไทยส่วนใหญ่คนที่ประสานเข้ามาขอความช่วยให้กลับไทย มักจะมีเรื่องของหนังสือเดินทางหมดอายุแ ละการเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ส่วนตัวเรื่องที่น้องถูกปล่อยให้เสียชีวิตแบบนี้ ตนมองด้วยหลักมนุษยธรรม หากเป็นนิสัยของคนไทยถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ เราก็จะต้องผลักดันช่วยเหลืออยู่แล้ว ส่วนตัวมองว่าเพราะด่านปิดเลยไม่ให้คนไทยข้ามกลับ
“ส่วนตัวไม่ทราบว่าน้องข้ามไปทำอะไร แต่สิ่งที่คิดได้อย่างเดียวคือ ครอบครัวเขาไม่รู้เรื่องเขาจะไปทำดี ทำชั่ว ทำเลวไปมีคดี เราไม่รู้อันนั้นมันเป็นปัญหาของเขา แต่สิ่งที่เราทำได้คือเขาเป็นคนไทย เราต้องเอาเขากลับมา”
นอกจากนี้ ตัวแทนฯ ได้นำภาพก่อนจะเสียชีวิตทางนายเมธาชาญ ก็ยังเดินไปที่หน้าด่าน เพื่อขอเจ้าหน้าที่กลับมายังฝั่งไทยเพื่อรักษาตัว แต่ก็ถูกปฏิเสธ
ขณะที่มีรายงานว่า ผู้เสียชีวิตมีคดีที่อยู่ระหว่างขั้นตอนทางกฎหมาย ทีมข่าวได้สอบถามไปทาง พ.ต.อ.ธนพล กลิ่นเกษ ผกก.สน.พญาไท ทีมข่าวได้รับการยืนยันว่า นายเมธาชาญ ผู้เสียชีวิต มีคดีติดตัวในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพ์ฯ เมื่อปี 2568
Advertisement