ที่จุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด ชาวกัมพูชาทยอยเดินทางมาขอผ่านด่านกลับไปยังฝั่งกัมพูชาครั้งละ 5-6 คน โดยเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นอย่างละเอียด คนใดไม่มีเอกสารก็จะต้องเข้าระบบการผลักดันตามกฎหมาย
นายภิรมย์ ทองคำ อายุ 63 ปี พ่อค้าขายชายแดนกว่า 38 ปี เปิดเผยว่า ตนเองค้าขายชายแดนมานาน เศรษฐกิจซบเซามาตั้งแต่สมัยโควิด-19 จนมาถึงสถานการณ์ตึงเครียดชายแดน และดีใจหากกัมพูชาจะถอนกำลังออกจากดินแดนไทยในเดืนตุลาคมนี้ หวังจะช่วยให้สถานการณ์คลี่คลายลงบ้าง
ขณะนายจตุพัฒน์ ฤกษ์สหกุล กรรมการผู้จัดการตราดมั่นคง ผู้ค้าวัสดุก่อสร้างส่งออกชายแดน เปิดเผยถึงการปิด-เปิดด่านว่า เห็นด้วยเรื่องปิดด่าน แต่อยากให้ใช้เหตุผลในการปิด-เปิด ถ้าคิดให้ดีจะเห็นว่าปิดด่านผู้เดือดร้อนคือคนไทยที่ทำธุรกิจการค้าการท่องเที่ยว เพราะไทยได้เปรียบดุลการค้ากัมพูชาจำนวนมาก ส่วนเขมรแม้ไม่มีสินค้าไทยก็หันไปใช้สินค้าจากจีนและเวียดนามแทนได้
สำหรับเรื่องถนนไปบ่อนกาสิโนที่ทุกคนเข้าใจว่าตัดไปรองรับบ่อนนั้น ความจริงเป็นการอนุมัติโครงการในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จากการร่วมกันของคณะกรรมการภาครัฐและเอกชนจ.ตราด (ก.ร.อ.) ที่ประชุมร่วมกันหลายครั้ง เพื่อเปิดเป็นเส้นทางเพื่อการค้าการท่องที่ยวให้สามารถใช้พาสปอร์ต ในการเดินทางได้ แต่มาติดขัดเรื่องทุนจีนสร้างอาคารบ่อนรุกล้ำเขตแดนไทย จนต้องสั่งยุติโครงการดังกล่าว
นายจตุพัฒน์ บอกว่าถนนไม่ได้สร้างเพื่อรองรับบ่อน สร้างขึ้นตามความเห็นร่วมกันของภาครัฐเอกชนและมติ ครม. สำหรับอาคารบ่อนกาสิโนเห็นด้วยให้มีการรื้อถอน แต่ก็ต้องรอการตกลงอย่างเป็นทางการของรัฐบาลของทั้ง 2 ฝ่าย
Advertisement