
ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้มีอดีตทหาร จํานวนหลายนาย ที่เคยประจําการอยู่แนวชายแดนไทย - กัมพูชาตั้งแต่สมัยสงครามเขมรแดง ซึ่งก็จะเห็นลักษณะการสู้รบของกัมพูชา
เช่นเดียวกับ ร้อยตรี โสภณ เหนี่ยวพันธ์ อายุ 68 ปี อดีตทหารปืนใหญ่ สังกัด กองพันทหารปืนใหญ่ ก่อนหน้านี้เคยประจําอยู่ ในพื้นที่ ซำแต อําเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยเขาเล่าให้ฟังว่าในช่วงที่ตัวเองประจําการ พื้นที่ภูผี ยังไม่ถือว่าเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการปะทะ บริเวณแนวชายแดนไทยกัมพูชา เนื่องจากยังไม่มีถนนขึ้นไป แต่ภายหลังทราบมาว่ากัมพูชาได้ตัดถนนขึ้นไป และไปทำฐานทหาร พร้อมทั้งนำรถถังขึ้นไปตั้งอยู่ด้านบน
ส่วนตัวในฐานะที่เคยประจำอยู่แนวชายแดน มองว่าจุดนี้ยังไม่ถือว่าเป็นข้อได้เปรียบของกัมพูชา เพราะความสูงของภูผี ยังเทียบไม่ได้เท่ากับภูมะเขือ แม้จะมีการนำรถถังขึ้นไป ก็เชื่อว่าไม่ได้เปรียบ แน่นอนเพราะยุทโธปกรณ์ของไทยเหนือกว่าและแม่นยำกว่า ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาก็ใช้วิธีการแบบนี้มาโดยตลอด จึงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับแนวทางการสู้รบ โดยปกติกัมพูชาก็จะนํารถถังไปซุ่มอยู่ตามจุดที่คิดว่าอยู่สูง แต่แท้จริงแล้ว ก็ถือเป็นเป้านิ่งในการโจมตีได้เช่นเดียวกัน
และในฐานะที่เป็นอดีตทหารมองว่า การแก้ไขปัญหาตอนนี้ล่าช้ามาก ยิ่งในสถานการณ์ที่มีทหารเหยียบทุ่นระเบิดล่าสุด หากมีการยิงตอบโต้กลับไปทันที ก็มองว่าไม่ใช่เรื่องที่เสียหาย เพราะที่ผ่านมาก็ปล่อยให้กัมพูชาได้ใจและทำแบบนี้มาโดยตลอด ถ้าเป็นยุคก่อนคงจะปะทะกันจนรู้ผลชัดเจนแล้ว
Advertisement