(23 ก.ย. 2568) ผู้สื่อข่าวรายงานกองกำลังบูรพาร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 (ร้อย.ทพ.1202) เข้าทำการสกัดจับชายไทย 2 คนได้ทันควัน หลังได้รับรายงานข่าวกรองว่าจะมีการลักลอบเดินทางเข้าประเทศไทยโดยผิดกฎหมายผ่านช่องทางธรรมชาติในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
โดยสามารถจับกุมกลางไร่อ้อยก่อนลอบเข้าตอนใน เจ้าหน้าที่วางกำลังเฝ้าตรวจพื้นที่ริมถนนสาย 2090 (เส้นดงงู-ป่าไร่) ซึ่งอยู่ใกล้ไร่อ้อยชายแดนและสามารถตรวจพบชายต้องสงสัย 2 คนกำลังนัดพบกันบริเวณดังกล่าวจึงเข้าควบคุมตัวไว้ได้ทราบชื่อภายหลัง คือ นายชัยนันท์ อายุ 30 ปี ชาวไทย ทำหน้าที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ นายพิชญานันท์ อายุ 32 ปี ชาวไทย กำลังจะซ้อนท้ายรถเพื่อเดินทางเข้าพื้นที่ตอนใน สารภาพหมดเปลือก จ่าย 7 พันบาท หวังลัดด่าน
จากการสอบสวน นายพิชญานันท์ ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็นพีอาร์อยู่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งในประเทศกัมพูชา เป็นเวลา 3 เดือน แต่เมื่อสถานบันเทิงใกล้ปิดกิจการทำให้ขาดรายได้จึงตัดสินใจหาทางกลับไทย โดยติดต่อเพื่อนร่วมงานและตกลงจ่ายเงินให้ชายชาวกัมพูชา จำนวน 7,000 บาท เพื่อพาลักลอบข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติ เนื่องจากด่านถาวรยังคงปิดทำการ
โดยเล่าว่า ได้เดินเท้าลัดเลาะออกจากหมู่บ้านกอปรัม แขวงปอยเปต ผ่านเส้นทางธรรมชาติมายังจุดนัดพบที่ชายแดน โดยมี นายชัยนันท์ รอรับเพื่อพาเข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศไทย ได้ค่าจ้าง 500 บาท แลกส่งคน
ขณะที่ นายชัยนันท์ ให้การว่าตนได้รับการติดต่อจากแฟนสาวชาวกัมพูชาให้ไปรับตัว นายพิชญานันท์ พร้อมตกลงค่าจ้างเป็นเงิน 500 บาท เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ส่งคนเข้าประเทศแต่ยังไม่ทันพาตัวออกจากพื้นที่ ก็ถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมได้เสียก่อน ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ภายหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย พร้อมรถจักรยานยนต์ของกลางส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
แหล่งข่าวจากกองกำลังบูรพา ระบุว่า การสกัดจับครั้งนี้เป็นไปตามมาตรการเข้มงวดในการป้องกันการลักลอบข้ามแดน ซึ่งนอกจากจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายแล้ว ยังสุ่มเสี่ยงต่อการก่ออาชญากรรมข้ามชาติและการลักลอบเคลื่อนย้ายแรงงานผิดกฎหมาย ที่อาจเชื่อมโยงกับเครือข่ายค้ามนุษย์
Advertisement