โดยเมื่อช่วงประมาณ 2 ทุ่มที่ผ่านมา วันที่ 17 ก.ย.68 เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนจังหวัดสระแก้วและเจ้าหน้าที่ทหาร รวมถึงเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน สภ.โคกสูง รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัย บางส่วนได้มีการถอนกำลังออกจากพื้นที่ เพื่อเข้าประจำการวางแผนต่อ
เนื่องจากหลังมีการตรวจสอบภาพโดรนตรวจจับความร้อน พบว่ามวลชนฝั่งกัมพูชาที่มาจากนอกพื้นที่ ได้ทยอยออกไปแล้ว เหลือเพียงแค่ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนอยู่จุดนั้น
เราได้คุยกับ “นายกฤษณะ งามรูป“ อาสาสว่างเที่ยงธรรม จุดแซร์ออ จ.สระแก้ว ก็ยืนยันกับทีมข่าวว่าตอนนี้ได้รับคำสั่งให้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ เพื่อไปรวมพลกันที่โรงพยาบาลโคกสูง ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ของฝั่งไทยทั้ง 4 นายไปรักษาตัวหลังได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าผากและคิ้วแตก จากการถูกปาก้อนหินมาจากฝั่งกัมพูชา แต่ตอนนี้ปลอดภัยแล้วทุกนาย
ซึ่งวันนี้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่เดินทางมาประจำจุดนี้ประมาณ 100 ชีวิต ทั้งจากอรัญประเทศ โคกสูงและเมืองสระแก้ว เพื่อสแตนด์บายดูแลความเรียบร้อยและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ยอมรับว่ารู้สึกดีใจมาก ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องอธิปไตยไทย ยิ่งวันนี้เห็นเหล่าทหารและเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนรวมพลังกัน ก็รู้สึกภูมิใจที่ได้เกิดบนผืนแผ่นดินไทย พร้อมกับขอส่งกำลังใจให้พี่ๆทุกส่วน ขอให้ปลอดภัย ตนและทีมงานกู้ภัยพร้อมที่จะเข้าช่วยเหลือ 24 ชั่วโมง
แต่ถ้าถามถึงความรู้สึกของชาวบ้าน แน่นอนว่า ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขมรไว้ใจไม่ได้ เราได้คุยกับ “นางบุญเลิศ แตงทอง” อายุ 68 ปี ชาวบ้านที่บ้านหนองหญ้าแก้ว วันนี้ระบายความรู้สึกยืนยันกับเราเลยว่า เขมรมันคบไม่ได้จริงๆ ไม่มีความซื่อสัตย์ เพราะเขมรเป็นได้ทุกอย่างโดยเฉพาะโจร เช่นวันนี้ที่มารื้อแนวลวดหนามตรงแนวชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว หลังจากคณะ IOT ออกมาไม่ถึง 10 นาที ตนรู้สึกสงสารทหารมาก ดูคลิปไปก็น้ำตาไหลไป เพราะทหารเหล่านั้นเหมือนลูกหลานของตน ถ้าทางการขอรับบริจาคเงินไปสร้างกำแพงกั้นตรงชายแดน ตนยินดีที่จะให้ทันที เพื่อปกปักรักษาแผ่นดินไทย จะให้ใครมาย่ำยีแบบนี้ไม่ได้ และสำคัญที่สุดคือไม่อยากให้ทหารกับเจ้าหน้าที่ไทยต้องมีใครเสียแข้งเสียขาอีกแล้ว
พร้อมกับเล่าประสบการณ์สุดเจ็บปวดที่เจอกับตัว เมื่อปีก่อน มีคนเขมรรายหนึ่ง ข้ามมาติดต่อซื้อไก่ที่บ้านของตน แล้วทำทีอ้างว่าไม่มีข้าวกิน ตนก็ใจดีให้ข้าวสารไป จากนั้นเขมรรายนี้ก็ขอฝากตัวเป็นลูก ตนก็เลยรับดูแลเพราะสงสาร เมื่อไหร่ที่เจ็บไข้ได้ป่วย ก็พาไปรักษา โทรศัพท์ก็ซื้อให้ แต่สุดท้ายดันมาขโมยวัวราคา 6 หมื่นของตน แล้วพาข้ามไปขายที่ฝั่งกัมพูชา ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขมรเคยบอกกับตนว่า “ถ้าผมเนรคุณ ผมก็ไม่ใช่คนแล้ว”
Advertisement