จากกรณีที่นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน ตั้งข้อสังเกตสาเหตุค่าเงินบาทแข็งค่าเร็วและรุนแรง ส่วนหนึ่งมาจากความผิดปกติบางอย่างในการส่งออกทองคำ โดยเฉพาะการส่งออกไปกัมพูชานั้น
นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่า หลังกกร.ตั้งข้อสังเกตว่า ไทยส่งออกทองคำไปยังกัมพูชามูลค่าสูงกว่า 6.8 หมื่นล้านบาทนั้น สมาคมฯดูข้อมูลการส่งออกทางการแล้ว พบว่าเป็นสัดส่วนที่น้อยมากประมาณ 2-3% เท่านั้น เมื่อเทียบกับการนำเข้า-ส่งออกทองคำไปทั่วโลกทั้งปี เฉลี่ยอยู่ที่ 120 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 3-4 แสนล้านบาท
ดังนั้นถือว่าไม่ผิดปกติ และเป็นตัวเลขที่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ซึ่งหน่วยงานราชการสามารถตรวจสอบได้ว่าเกี่ยวข้องธุรกิจใต้ดินหรือไม่ แต่ถ้าจะผิดปกติหรือเกี่ยวข้องกับธุรกิจใต้ดิน คงไม่มีเปิดเผยตัวเลข และน่าผ่านช่องทางอื่น อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางผู้ค้าและผู้ส่งออกคงต้องเข้าไปชี้แจงกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้เข้าใจต่อไป
สำหรับเงินบาทที่แข็งค่า เพิ่งเริ่มแข็งค่าหนักๆ ช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ สาเหตุมาจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าและเป็นกันทั่วโลก เพราะทั่วโลกไม่ไว้ใจนโยบายและภาษีของทรัปม์ที่ยังไม่จบ กระทบกับภาวะเศรษฐกิจโลก จะมาโทษทองคำไม่ได้ ซึ่งผลจากเงินบาทแข็งมีทั้งผลดีและผลเสีย คือทำให้สินค้านำเข้าราคาถูก แต่ก็กระทบต่อการส่งออกที่มีมูลค่าลดลง ดังนั้นการแก้ปัญหาต้องดูภาพรวมและกลไกตลาดโลกด้วย
Advertisement