ชาวนาสุดท้อ! เงินช่วยเหลือไร่ละพันยังไม่เข้า ต้องรอยืนยันผ่านแอปฯ
ชาวนาอุทัยธานีสุดท้อ! เงินช่วยเหลือไร่ละพันยังไม่เข้า ต้องรอยืนยันผ่านแอปฯทางรัฐ พร้อมวอนรัฐบาลชุดใหม่ ช่วยแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำอย่างเร่งด่วน
วันที่ 1 ก.ย. 67 ที่จ.อุทัยธานี ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บริเวณหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาหนองฉาง อ.หนองฉาง เป็นไปอย่างเงียบเหงา ไม่มีเกษตรกรชาวนาเดินทางมาเข้าแถวรอคิวกดเช็กเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท เหมือนทุกรอบที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งตามจริงแล้ววันนี้ เงินโครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังปี 2568 และโครงการสนับสนุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี และส่งเสริมการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับศักยภาพพื้นที่ ปีการผลิต 2568/69 หรือเงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท จะต้องเริ่มโอนเงินให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปรังทันทีภายใน 3 วัน หรือตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. เป็นต้นไป
ซึ่งมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 68 ข้อ3 “ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาถึงความเหมาะสม และเป็นไปได้ในการกำหนดให้เกษตรกรลงทะเบียนการประกอบอาชีพผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” เพื่อให้ภาครัฐมีฐานข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน และสามารถนำมาใช้ในการติดตามและจัดทำแผนปรับเปลี่ยนการเพาะปลูกพืชของเกษตรกรให้เหมาะสม และสอดคล้องกับศักยภาพของแต่ละพื้นที่ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรลดรายจ่ายเพิ่มผลผลิต และมีรายได้เพิ่มขึ้นได้อย่างยั่งยืนต่อไป ส่งผลให้วันนี้ที่หน้าตู้ATM ธ.ก.ส.สาขาหนองฉางเงียบเหงาอย่างที่เห็น แต่พบว่ายังมีชาวนาบางรายที่เดินทางนำบัตรATM มาตรวจสอบว่ามีเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาท โอนเข้ามาแล้วหรือไม่ด้วยเช่นเดียวกัน
นายธเนศ ทินอาน อายุ 39 ปี เกษตรกรชาวนาในพื้นที่ อ.หนองขาหย่าง เปิดเผยว่า ส่วนตัวแล้วคิดว่าการที่จะให้ชาวนาไปลงทะเบียนยืนยันตัวตนรับเงินข้าวไร่ละพันผ่านแอปฯทางรัฐนั้น เป็นเรื่องที่ยุ่งยาก อย่างตนเองนั้นทำนารวมแล้วกว่า 100 ไร่ ต้นทุนต่อไร่ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 5,000-6,000 บาท แต่ราคาขายข้าวตอนนี้อยู่ที่แค่ตันละ 5,000 กว่าบาท ซึ่งอ้างอิงจากราคาล่าสุดที่ชาวนาแถวบ้านตนเองเพิ่งเก็บเกี่ยวข้าว และไปขายมาตอนนี้ทำนาปลูกข้าว แทบจะไม่คุ้มคุ้มทุน แต่ก็ไม่รู้จะไปทำอะไร เพราะเราประกอบอาชีพทำนากันมาตั้งแต่แรกเริ่มแล้ว ส่วนการได้รับเงินช่วยเหลือไร่ละ 1,000 บาทนี้ เรียกว่าได้เป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวนาได้นิดหน่อย
วอนรัฐบาลใหม่ช่วยเพิ่มราคารับซื้อข้าวขึ้นมาให้อยู่ที่ตันละ 8,000-9,000 บาท แบบนี้ชาวนาถึงจะพอได้เหลือเงินกันบ้าง เพราะว่าตอนนี้ต้นทุนการทำงานนั้นสูงมาก
ส่วนเงินช่วยเหลือเยียวยาไร่ละพัน วันนี้ยังไม่มีเงินเข้ามา ก็คงต้องคอยติดตามต่อไปว่าจะให้ชาวนานั้นดำเนินการไปในขั้นตอนใด อย่าง แอปฯทางรัฐ นั้นเมื่อวานนี้ตนเองก็ได้ทดลองเข้าไปเพื่อทำการยืนยันตัวตนมา ก็พบว่าไม่ได้มีช่องทางที่จะให้ยืนยันตัวตนของเกษตรกรชาวนาแต่อย่างใด มีแต่เพียงของกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยเท่านั้น การลงทะเบียนยืนยันตัวตนผ่าน แอปฯงทางรัฐ น่าจะยุ่งยาก และลำบากกับกลุ่มเกษตรกรที่เป็นผู้สูงอายุ ส่วนตัวแล้วคิดว่าการโอนเงินช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาในรูปแบบเดิมนั้นดีกว่า เพราะเกษตรกรชาวนาส่วนใหญ่นั้นไม่ค่อยเก่งในเรื่องการใช้แอปพลิเคชัน ซึ่งอาจจะทำให้พวกเขานั้นเสียสิทธิ์ได้
Advertisement
