ขับรถขณะ “เมาสุรา” ไม่เพียงละเมิดกฎหมายจราจร แต่ยังเป็นภัยต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนในการได้รับความปลอดภัยบนท้องถนน หากเกิดอุบัติเหตุ อาจสร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น การตระหนักถึงเกณฑ์ปริมาณแอลกอฮอล์และโทษตามกฎหมายจึงมีความสำคัญ เพื่อปกป้องชีวิตของตนเองและผู้ใช้ถนน
ปริมาณแอลกอฮอล์ที่ถือว่า “เมาแล้วขับ”
เกณฑ์ปริมาณแอลกอฮอล์ที่เข้าข่ายเมาแล้วขับ ดังนี้
• สำหรับบุคคลทั่วไป หากปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัม %
• สำหรับผู้ที่อายุต่ำกว่า 20 ปี หรือมีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว หากเกิน 20 มิลลิกรัม %
หากเกินเกณฑ์ดังกล่าวถือว่า “เมาแล้วขับ” ทันที
อัตราโทษตามกฎหมาย
โทษของการเมาแล้วขับขึ้นอยู่กับความร้ายแรงและจำนวนครั้งของการกระทำผิด
กรณีทำผิดครั้งแรก
- จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000 – 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทำผิดซ้ำภายใน 2 ปี
- จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000 – 100,000 บาท
เมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกาย
- จำคุก 1 – 5 ปี และปรับ 20,000 – 100,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่ต่ำกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
เมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายบาดเจ็บสาหัส
- จำคุก 2 – 6 ปี และปรับ 40,000 – 120,000 บาท และพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
เมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายถึงแก่ความตาย
- จำคุก 3 – 10 ปี และปรับ 60,000 – 200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ความผิดกรณีขัดขวางเจ้าหน้าที่
การขัดขวางหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่ก็ถือว่ามีความผิด
ขัดขวางเจ้าพนักงาน : จำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ใช้กำลังหรือขู่เข็ญ : จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“เมาแล้วขับ” ศาลอาจสั่งคุมประพฤติ
• ผู้ถูกคุมความประพฤติต้องมารายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ และทำงานบริการสังคมตามระยะเวลาที่กำหนด
• เพื่อแก้ไขและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รวมถึงในบางกรณีต้องติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic Monitoring : EM)
• พร้อมเข้าโปรแกรมอบรม เพื่อสร้างจิตสำนึกและป้องกันการกระทำผิดซ้ำ ซึ่งอาจถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่หรือถึงขั้นเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
ที่มา : กรมคุมประพฤติ
Advertisement