ตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สปอร์ตไลท์จับจ้องไปที่ข่าววัดพระบาทน้ำพุ โดยเฉพาะประวัติ "หลวงพ่ออลงกต" อดีตเจ้าอาวาส หรือพระราชวิสุทธิประชานาถ ที่จู่ๆ ก็ถูกขุดอดีตว่าแท้จริงแล้วหลวงพ่อไม่ได้จบปริญญาแม้แต่ใบเดียว จนยอมปริปากสารภาพว่า หลวงพ่อไม่เคยเรียนที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ ไม่เคยจบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และไม่เคยไปเรียนต่อปริญญาด้านวิศกรรมโทที่ออสเตรเลีย จึงเป็นจุดเริ่มต้นของคำถามที่ว่า สรุปแล้ว หลวงพ่อคือใครกันแน่?
เดิมที หลวงพ่ออลงกต ชื่อแต่แรกเกิดคือ เด็กชายไกร เพ็ชรแก้ว เกิดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2503 ที่อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น บิดาชื่อ นายเสริมวิทย์ มารดาชื่อ วิไลภรณ์ ต่อมาใช้ชื่อ นายเกรียงไกร เพ็ชรแก้ว จากนั้นได้ใช้ชื่อ นายอลงกต พลมุข (ชื่อของเพื่อนสมัยเรียนที่เสียชีวิตไปแล้ว) ปัจจุบันใช้ชื่อ นายอลงกต พูลมุข
จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ที่โรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย จังหวัดขอนแก่น จากนั้นเรียนต่อระดับประโยควิชาชีพ หรือ ปวช. ที่เกษตรบ้านกร่าง จังหวัดพิษณุโลก สถานศึกษาที่มีชื่อเสียงทางด้านเกษตรกรรม ปัจจุบันยกสถานะขึ้นเป็น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา พิษณุโลก (มทร. พิษณุโลก) แต่เจ้าตัวเรียนได้เพียง 5 ภาคเรียน สำหรับภาคเรียนสุดท้าย ปี 3 เทอม 2 ไม่ปรากฏผลการเรียน เท่ากับว่าเรียนไม่จบชั้น ปวช.
หากย้อนไปเมื่อปี พ.ศ. 2520 นายเกรียงไกร เพ็ชรแก้ว อายุครบ 17 ปี ต้องไปขึ้นทะเบียนเพื่อเกณฑ์ทหาร และไปขึ้นทะเบียนไว้กับสัสดีอำเภอเมืองขอนแก่น ต่อมาเมื่ออายุครบ 21 ปี ตรงกับปี พ.ศ. 2524 ต้องเกณฑ์ทหารตามกำหนด แต่เจ้าตัวใช้สิทธิ์ยื่นเรื่องขอผ่อนผัน โดยอ้างว่ากำลังศึกษาอยู่คณะเกษตร มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดพิษณุโลก จนถึงปี พ.ศ. 2529 นายเกรียงไกร อายุครบ 26 ปี ก็ไม่ได้ไปเข้ารับการเกณฎ์ทหารอีกเลย
ระหว่างนี้มีรายงานด้วยว่า ได้มีหมายเรียกเกณฑ์หาร สด. 35 ส่งไปที่บ้านของนายเกรียงไกรทุกปี แต่เจ้าตัวไม่ได้รับหมายดังกล่าว กระทั่งปี พ.ศ. 2533 อายุครบ 30 ปี ตามกฎหมายให้เรียกว่า "พ้นภาระทางทหาร" ซึ่งไม่ต้องถูกเรียกตัวไปตรวจเลือกทหารอีก แต่มีความผิดตามกฎหมายลงโทษจำคุก 3 เดือน ปรับ 300 บาท แต่ในทางกลับกันถ้าเจ้าตัวได้รับหมาย แล้วไม่มารายงานตัวเพื่อตรวจเลือก ความผิดยิ่งทวีคูณเป็นโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี
ระหว่างนี้ในปี พ.ศ. 2522 หลวงพ่ออลงกต ได้อุปสมบทเป็นภิกษุ สังกัดธรรมยุต ได้ฉายา "ติกฺขปญฺโญ" และต่อมา ปี พ.ศ. 2529 (ตามปีใบสุทธิ) ได้เปลี่ยนเป็นมหานิกาย ณ วัดลำพระนารายณ์ จังหวัดลพบุรี ต่อมาในปี พ.ศ. 2531 ได้ย้ายมาจำพรรษาและขึ้นเป็นเจ้าอาวาส ที่วัดพระบาทน้ำพุ จังหวัดลพบุรี เรื่อยมา
นอกจากนี้ ในใบสุทธิพระล่าสุด ที่ออกเมื่อวันที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2552 ยังพบข้อมูลกลับไปใช้ชื่อ นายอลงกต พลมุข วิทยฐานะปริญญาโท ใช้ชื่อบิดามารดาจริง แต่ข้อมูลวันเดือนปีเกิดปลอม
ขอบคุณข้อมูล : ข่าว 3 มิติ
Advertisement