วันที่ 11 ก.ค.2568 ที่วัดช่างเหล็กต.ช่างเหล็กอ.บางไทรจ.พระนครศรีอยุธยาพบว่ามีชาวบ้านและประชาชนที่อยู่บริเวณโดยรอบวัดเดินทางมาเพื่อให้กำลังใจ พระครูประทีป วัชราภรณ์(วิเชียรปญฺญาทีโป) เจ้าคณะตำบลบ้านกลึง เจ้าอาวาสวัดช่างเหล็ก ที่กำลังตกเป็นข่าวเรื่องคลิปฉาวถูกเผยแพร่ในสื่อโซเชียล
พระครูสุวัฒน์ บุญโญภาส เจ้าคณะอำเภอบางไทรเจ้าอาวาสวัดเชิงเลน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา พระครูใบฎีกานพรัตน์ ภาคพิธเจริญ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางไทรพร้อมด้วยคณะสงฆ์ฝ่ายปกครอง มาทำการสอบสวนเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทางเจ้าอาวาส จากนั้นได้มาทำความเข้าใจชี้แจงกับกลุ่มชาวบ้าน
พระครูสุวัฒน์ บุญโญภาส เจ้าคณะอำเภอบางไทร กล่าวว่าจากการที่ปรากฏภาพตามสื่อต่างๆและทำให้ญาติโยมตกใจที่ผ่านมาก็มีการกำชับให้พระสงฆ์ปฏิบัติตามพระธรรมวินัยบางเรื่องอย่าโยงว่าจะเข้าใจคลาดเคลื่อน ไม่รู้ที่มาที่ไปว่ามันเป็นมาอย่างไร และได้มีการดำเนินการอย่างไรบ้าง และแก้ไขได้อย่างไรบ้าง จะได้ไม่เสียความเสียหายต่อคณะสงฆ์ต่อวัดต่อศาสนา ซึ่งบอบช้ำมากเรื่องนี้ ได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนของพระธรรมวินัยแล้ว เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นผ่านมาแล้วเป็นเรื่องเก่านั่นเอง
พระครูใบฎีกานพรัตน์ ภาคพิธเจริญ เลขานุการเจ้าคณะอำเภอบางไทร กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นคณะสงฆ์ชาวบ้านมีเรื่องทุกข์ใจมาก คลิปวิดีโอนี้เป็นเรื่องเก่าที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เป็นวันที่มีการเซ็นหนังสือแต่งตั้งท่านเป็นเจ้าคณะตำบลพอดี ทางด้านเจ้าคณะของหน่วยคณะสงฝ่ายปกครอง ได้เรียกท่านเจ้าอาวาสมาทำการสอบสวนทันที ท่านได้มีความตั้งใจ เข้ามารับสารภาพว่า ได้กระทำผิดจริง ที่ประชุมคณะสงฆ์ฝ่ายปกครองได้พิจารณาตามความผิดที่ท่านกระทำแล้ว เป็นความผิดทางวินัยของสงฆ์ สังฆาทิเสสระดับกลาง คือจงใจให้น้ำอสุจิเคลื่อนได้ให้ท่านปลงอาบัติอยู่ปริวาสกรรมถึง 3 ครั้ง
การพิจารณาความผิดและการลงโทษท่านเจ้าวาส เราใช้หลักพิจารณาหลายอย่างประกอบการ ทั้งเรื่องพระธรรมวินัยของสงฆ์ ขนบธรรมเนียมประเพณี กฎหมายบ้านเมือง และตามประกาศของมหาเถระสมาคมมาพิจารณาแล้ว ความผิดของท่านไม่ถึงขั้นปาราชิก และไม่มีความผิดทางกฎหมาย ทางคณะสงฆ์ฝ่ายปกครองได้มีการว่ากล่าวตักเตือน ซึ่งท่านยอมรับสารภาพว่า ท่านมีความผิดตามที่ปรากฏจริง
ส่วนในเรื่องของการแต่งตั้งเจ้าคณะตำบล ตามหลักของคณะสงฆ์แล้ว ท่านเป็นรักษาการเจ้าคณะตำบลอยู่ จนมีการพิจารณาความผิดและลงโทษตามหลักพระธรรมวินัยของคณะสงฆ์แล้วไม่มีการคัดค้าน จึงมีการตั้งแต่งตั้งท่านเป็นเจ้าคณะตำบล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากนั้นคณะสงฆ์ฝ่ายปกครอง ได้สอบถามชาวบ้านที่มาร่วมรับฟังการชี้แจงว่า ทุกท่านมีความคิดเห็นอย่างไร ยังมีความต้องการให้ท่านปฎิบัติหน้าที่เป็นเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบลอยู่หรือไม่ เสียงของชาวบ้านส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่าให้ท่านปฎิบัติหน้าที่ต่อไป
แต่มีชาวบ้านรายหนึ่ง แสดงความคิดเห็นว่าไม่ให้สมควรที่จะให้ท่านเป็นเจ้าอาวาส หรือเจ้าคณะตำบลอยู่ ไม่สามารถที่จะกราบไหว้ได้ จนเกิดการโต้เถียงกันระหว่างชาวบ้าน
เลขานุการเจ้าคณะอำเภอ ได้อธิบายว่า ความผิดของท่านไม่ถึงขั้นปาราชิก เป็นความผิดทางวินัย ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาและกำหนดบทลงโทษไปแล้ว ไม่สามารถที่จะบังคับให้ท่านลาสิขาได้อยู่ที่ความสมัครใจของท่านเจ้าอาวาส ส่วนเรื่องที่ญาติโยมไม่เห็นด้วย จะไม่กราบกราบไหว้ท่านเจ้าอาวาส เป็นเรื่องตัวเป็นเรื่องของความคิดเห็น ส่วนตัวของโยมทางฝ่ายปกครองคณะสงฆ์ ได้พิจารณาและปฏิบัติตามพระธรรมวินัยทุกขั้นตอนแล้ว
ด้านพระครูประทีป วัชราภรณ์ เจ้าคณะตำบลบ้านกลึง (องค์ที่3) ที่ปรากฏอยู่ในคลิป กล่าวว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม มีสุภาพสตรีท่านหนึ่งได้ทักเข้ามาที่เฟซบุ๊กส่วนตัว โปรไฟล์เป็นแม่ค้าขายโดนัท ทักเข้ามาตีสนิททำความรู้จักได้ประมาณ 10 วัน จนมีการพูดคุยกันแล้วล่อลวงให้อาตมาสำเร็จความใคร่ หลังจากนั้นมีการข่มขู่อาตมาจนมีการโอนเงินเป็นครั่งคราวรวมแล้วประมาณ 120,000 บาท ซึ่งเป็นเงินส่วนตัว จนเงินที่อาตมาเก็บเอาไว้หมดไม่มีจะจ่ายให้แล้ว จึงมีการนำเรื่องนี้ไปร้องเรียนคณะสงฆ์ฝ่ายปกครองอำเภอบางไทร พร้อมกับที่อาตมาได้เข้าไปรับสารภาพยอมรับการกระทำความผิดที่ทำลงไป ด้วยความที่ขาดสติความดีที่ปฏิบัติมา ทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาพัฒนาวัด 30 กว่าพรรษาสูญสิ้นไปเพียงชั่วพริบตา เป็นตราบาป ทำให้ญาติโยมเสียใจตกใจ รวมถึงญาติพี่น้องและตัวอาตมาเองด้วย ขนาดญาติพี่น้องของอาตมาเอง ก็ยอมรับไม่ได้ ไม่ยอมมาทำบุญ
ซึ่งเรื่องนี้ได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินคดีกับหญิงสาวคนดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เส้นทางการเงินที่โอนไปอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ไม่สามารถที่จะติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดได้และหญิงสาวคนดังกล่าว ก็ไม่มีตัวตนเป็นวิดีโอที่สร้างขึ้นมาเพื่อหลอกลวง
สิ่งที่กระทำไปเป็นความผิดที่ไม่เหมาะสม เข้าใจความรู้สึกของญาติโยม อาตมาได้ปฏิบัติตามหลักพระธรรมวินัยในเรื่องของการปลงอาบัติ และการอยู่ปริวาสธรรมตามระเบียบทุกขั้นตอนแล้ว ต่อจากนี้จะตั้งสติตัวเองให้มากขึ้นกว่าเดิม ที่เคยทำอยู่จะไม่กระทำผิด ในลักษณะแบบนี้อีก สิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วจะไม่เกิดขึ้นอีกในช่วงชีวิตที่ครองสมณเพศ เป็นพระสงฆ์อยู่ ถ้าเกิดขึ้นอีกจะแขวนคอหน้าโบสถ์เป็นการลงโทษตนเอง
Advertisement