
วันที่ 17 มิ.ย. 68 ที่จ.ตราด นายวุฒิพงศ์ รัตนมณฑ์ นายกสมาคมชาวสวนผลไม้ จ.ตราด และผู้ประกอบการเจ้าของสวนผลไม้รายใหญ่ของ จ.ตราด เปิดเผยถึงสถานการณ์ตึงเครียดชายแดนไทย-กัมพูชาใน จ.ตราดว่า เรื่องดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบกับแรงงานกัมพูชาที่มารับจ้างทำงานใน จ.ตราด โดยเฉพาะภาคเกษตร ที่แรงงานดังกล่าวทำงานเข้มแข็ง ขยัน อดทน ซื่อสัตย์ และที่สำคัญมัธยัสถ์ บางรายมาอยู่นานถึง 20 ปี จนมีครอบครัว มีสามีภรรยาเป็นคนไทย มีลูกหลานมากมาย เฉพาะสวนตนเองมีแรงงานกัมพูชาอยู่มากถึงประมาณ 70 คน ที่อยู่ประจำ
โดยตนมีทั้งสวนทุเรียน เงาะ ลองกอง มังคุด อาศัยแรงงานกัมพูชาเหล่านี้ช่วยในการทำสวนทุกอย่าง ตั้งแต่เริ่มต้นฤดูจนจบฤดูกาลเก็บเกี่ยว
นายวุฒิพงศ์ บอกว่า แรงงานเหล่านี้เข้ามาอย่างถูกต้อง มีเอกสาร ทั้งบัตรสีชมพู พาสปอร์ต และบอเดอร์พาส
สำหรับความขัดแย้งเรื่องชายแดนเป็นเรื่องทางการเมือง ตนไม่พูดถึง แต่จะพูดถึงแรงงานที่อยู่กับตน กับเกษตรกรอีกหลายราย มีแรงงานกัมพูชาไม่ต่ำกว่า 2-3 หมื่นคน โดยแรงงานกัมพูชาใน จ.ตราดไม่อยากกลับไปกัมพูชา ขอแค่กลับไปเยี่ยมบ้านเท่านั้น อยู่ทำงานส่งไปให้ครอบครัว
สำหรับการส่งออก นายวุฒิพงศ์ บอกว่า ไม่กระทบ เพราะเงาะส่งออกไปตลาดเวียดนาม มีส่งไปชายแดนกัมพูชาเพียง 5-10 %เท่านั้น
ด้านนางเดือน กล่าวว่า ตนอยู่มานาน 20 ปี จนเข้าใจและผูกพันกับเจ้านาย ตนมามีครอบครัวอยู่ใน จ.ตราด สามีอยู่ จ.กำปอต ทำงานส่งลูกเรียนเข้าเรียนวิศวะในเมืองไทย แล้วก็อาศัยรายได้จากการทำงานสวนนี่เอง อย่างไรตนก็ไม่กลับ เพราะทำงานที่นี่สวัสดิการดี มีความสุข และมีความมั่นคงกว่า ตนเองหันมารับผิดชอบทำงานแบบเหมาให้กับเจ้านายมีรายได้ปีละ 7-9 แสนบาท ขณะที่คนทำงานรายวันมีรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 400-500 บาท ดังนั้นจึงมองว่าทำงานอยู่เมืองไทยดีกว่ากลับไปกัมพูชา และยังไม่รู้อนาคตว่าจะมีงานทำมีรายได้ดีๆ แบบนี้หรือไม่
นอกจากนี้ยังมีแรงงานภาคธุรกิจ การท่องเที่ยวที่เกาะช้างอีกราย คือนายยัต บุญเทือน และ น.ส.เมียน จันที พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งบนเกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด บอกว่า ทำงานดีรายได้ดี สวัสดิการดี ไม่อยากกลับไปกัมพูชา กลับไปก็แค่ไปเยี่ยมบ้านปกติ จะส่งเงินกลับไปให้ครอบครัวตัวเองอยู่ทางนี้มีความสุข งานสบาย และยังบอกว่า แรงงานกัมพูชาใน จ.ตราดไม่มีใครอยากกลับไปกัมพูชา แรงงานที่กลับส่วนใหญ่เป็นแรงงานจากกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ
Advertisement