แม้เหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง ขนาด 8.2 ที่เกิดขึ้นในภาคกลางของเมียนมาเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 จะผ่านไปแล้วกว่า 1 เดือนครึ่ง แต่องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) และ Let's Save The Strays, International LLC. ยังคงเร่งดำเนินการช่วยเหลือสัตว์ที่ได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ระบบสาธารณูปโภคและโครงสร้างพื้นฐานยังเสียหายหนัก ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อผู้คน ชุมชน และสัตว์อีกจำนวนมากยังรอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
จนถึงขณะนี้ มีสัตว์กว่า 1,000 ตัวที่ได้รับการรักษาจากบาดแผลที่เกิดจากภัยพิบัติ กระดูกหัก โรคพาร์โว โรคไข้หัดสุนัข การติดเชื้อจากการกัดกัน และภาวะฉุกเฉินด้านระบบสืบพันธุ์ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต เช่น การติดเชื้อในมดลูกอย่างรุนแรง และภาวะแทรกซ้อนระหว่างการคลอดในสัตว์เพศเมียที่ไม่ได้ทำหมันและตั้งท้องโดยไม่คาดคิด
ปัจจุบัน องค์กรฯ กำลังให้อาหารสัตว์มากถึง 800 ตัวต่อวัน โดยแจกจ่ายอาหารจากสำนักงานเล็ก ๆ ขององค์กร พร้อมกับผู้ให้อาหารข้างถนน ที่ช่วยนำอาหารไปให้สุนัขและแมวจรจัดจำนวนหลายพันตัวที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้นที่หลังภัยพิบัติ ซึ่งยังคงเอาชีวิตรอดตามกองขยะ อาคารร้าง และวัด
เอมี ชอฟฟ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Let's Save The Strays, International เปิดเผยว่า 1 เดือนหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวในมัณฑะเลย์ สถานการณ์ยังคงยากลำบากจากปัญหาสาธารณูปโภคขาดแคลน ถนนเสียหาย และคลินิกสัตวแพทย์บางแห่งยังไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ นอกจากการช่วยเหลือเร่งด่วนแล้ว องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกและ Let's Save The Strays, International ยังมีแผนการช่วยเหลือระยะยาวในช่วง 1-3 เดือนข้างหน้า ได้แก่:
- การสร้างคลินิกสัตวแพทย์ขึ้นใหม่เพื่อฟื้นฟูการรักษาขั้นสูง
- การเพิ่มการฉีดวัคซีนเร่งด่วนเพื่อป้องกันการระบาดของโรค
- การกลับมาดำเนินโครงการ TNVR (การทำหมันและฉีดวัคซีนสัตว์จรจัด) ซึ่งเป็นภารกิจหลัก เพื่อควบคุมประชากรสัตว์และลดความทุกข์ทรมาน
องค์กรฯ ตระหนักดีว่าเมื่อเกิดภัยพิบัติ มนุษย์และสัตว์ต่างต้องการความช่วยเหลือ การดูแลสัตว์ในช่วงเวลาวิกฤตไม่เพียงช่วยชีวิตสัตว์ แต่ยังบรรเทาความทุกข์ใจของผู้คนที่รักและห่วงใยสัตว์เหล่านั้น และจากบทเรียนในการช่วยเหลือสัตว์จากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเนปาลเมื่อปี 2558 เราเรียนรู้ว่าการวางแผนระยะยาวยิ่งมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการช่วยเหลือเร่งด่วน
โรจนา สังข์ทอง ผู้อำนวยการองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย กล่าวว่า องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) มุ่งมั่นในการช่วยเหลือสัตว์ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติมานานกว่า 50 ปี ผ่านการให้บริการด้านอาหาร น้ำสะอาด การรักษาพยาบาล และการอพยพสัตว์จากพื้นที่เสี่ยงภัยต่างๆ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม ไฟป่า และพายุไต้ฝุ่น โดยได้ดำเนินภารกิจช่วยเหลือสัตว์กว่า 250 ครั้ง และช่วยชีวิตสัตว์มาแล้วกว่า 7 ล้านตัวทั่วโลก
นอกจากนี้ องค์กรฯ ยังรณรงค์ให้รัฐบาลและชุมชนทั่วโลกรวมการคุ้มครองสัตว์ไว้ในแผนการลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ เพื่อปกป้องชีวิตสัตว์และรักษาแหล่งรายได้ของชุมชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีฐานะยากจน ให้สามารถฟื้นตัวและกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างยั่งยืนหลังภัยพิบัติ
Advertisement