จากรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพเวชกรรมไม่ได้มาตรฐาน และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง กรณีชั้น 14 นายวีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักกฎหมายอิสระ ได้ให้ความเห็นผ่านเฟสบุ๊กระบุว่า "ป่วยวิกฤต กับป่วยเฉพาะทาง" ไม่เหมือนกันในทางกฎหมาย และไม่ควรนำมาตีความปะปนกัน กรณีชั้น 14 ผิดถูกอย่างไร ให้ว่ากันไปตามข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง
ข้อกฎหมายเรื่องอำนาจราชทัณฑ์ ไม่มีข้อใดกำหนดว่าต้องเป็นผู้ป่วยวิกฤต แต่มีกรณีต้องได้รับการบำบัดรักษาเฉพาะด้าน เจตนารมณ์เพราะกฎหมายไม่ต้องการให้มีผู้ต้องขังรายใดมาป่วยวิกฤต หากเริ่มป่วยก็ให้รักษาในเรือนจำ แต่หากต้องรักษาเฉพาะด้านที่รักษาในเรือนจำไม่ได้ ก็ให้ไปที่โรงพยาบาล
ประเด็นข้อกฎหมายเป็นดังนี้ ประเด็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอำนาจราชทัณฑ์จึงไม่ได้อยู่ว่าป่วยวิกฤตหรือไม่ แต่ต้องพิจารณาว่าอาการคุณทักษิณป่วยเฉพาะด้านที่รักษาในเรือนจำไม่ได้ ใช่หรือไม่
ส่วนเรื่องจริยธรรมแพทย์ก็เป็นการพิจารณาในอีกประเด็น หากมีการอ้างว่าป่วยวิกฤตแต่ไม่วิกฤตจริง ก็สมควรจะตรวจสอบดำเนินการไปตามขั้นตอนเกี่ยวกับจริยธรรมแพทย์ แต่ไม่ควรนำมาตีความปะปนกับอำนาจหน้าที่ราชทัณฑ์ซึ่งไม่มีข้อกฎหมายใดบังคับให้ต้องป่วยวิกฤตแล้วจึงย้ายไปรักษาดังที่กล่าวมา
Advertisement