วันที่ 1 พ.ค. 68 จากกรณี เฟซบุ๊กเพจ “ร้านสเต็กคุณแม่การ์ตูน Mother's Grill Steak House ย่างด้วยรัก หมักด้วยใจ” ของ แม่น้องการ์ตูน เหยื่อรถกระบะแต่งซิ่ง เมาแล้วขับเสียหลักพุ่งชนร้านสเต๊ก บริเวณปากซอยเอกชัย 119 เมื่อปี 57 ส่งผลให้คุณพ่อเสียชีวิต ส่วนน้องการ์ตูน ลูกสาวบาดเจ็บสาหัส ปัจจุบันเป็นผู้ป่วยติดเตียง โดยมีแม่ดูแลอย่างใกล้ชิด
โพสต์ข้อความว่า หลังจากการตัดสินใจครั้งใหญ่ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ครอบครัวและคุณแม่ของน้องได้ตัดสินใจ "ปล่อยน้องไปอย่างสงบ" เงินทุกบาททุกสตางค์จากพี่ๆ ได้ถูกนำไปใช้ เพื่อค่ารักษา ส่วนที่ยังคงค้างอยู่ เพื่อให้น้องได้ออกจากโรงพยาบาลเป็นครั้งสุดท้าย แอดไม่อาจอธิบายความรู้สึกนี้ออกมาได้ทั้งหมด เพราะมันเกินจะบรรยายจริงๆ สุดท้ายนี้ขอฝากถึงทุกคนก่อนจะพิมพ์อะไรออกไป อยากให้คิดสักนิด เพราะคอมเมนต์บางคำ แม้จะดูเหมือนไม่มีอะไรสำหรับคุณ แต่มันอาจทำร้ายหัวใจของแม่คนหนึ่ง ที่พยายามประคองชีวิตอยู่ เพื่อรอลากับลูกเป็นครั้งสุดท้าย และต้องทนทุกข์กับคำพูดที่เธอไม่สมควรได้รับ จนคิดจะจบชีวิตตามลูกไป” ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมา น.ส. ศรัญญา ชำนิ อายุ 45 ปี แม่น้องการ์ตูน เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า ก่อนหน้านี้ 3 สัปดาห์ ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาลว่า น้องมีอาการไม่ไหวแล้ว มีไข้ และน้องมีอาการโคม่า และทำการรักษา ตัวน้องเองนั่นไม่สามารถหายใจเองได้ โดยพยายามทุกอย่างแล้วน้องไม่ดีขึ้น จนเมื่อวานทางคุณหมอได้พูดคุยกับทางคุณแม่ในเรื่องการดูแลน้อง ถ้าจะดูแลน้องต่อไป ต้องมีเครื่องช่วยหายใจ เพราะน้องไม่สามารถหายใจเองได้ และต้องมีคนคอยดูแลน้องตลอด
โดยทางครอบครัวได้มีการพูดคุยกัน ถ้ามันเกิดอะไรขึ้นกับน้อง ทางครอบครัวตอนนี้ก็รับไหว เพราะตอนนี้น้องเหนื่อยมาก น้องเองก็สู้มา 11 ปีแล้ว เลยมาคุยกันที่ร้าน เราเองต้องหาเงินจ่ายทางโรงพยาบาล ทางน้องแอดมินเพจก็รู้ในเรื่องนี้ จึงมีการลงในเพจ จนมีการทักมาช่วยเหลือ ก็เลยกลายเป็นเรื่องขึ้นมา
น้องนั่นรับรู้ทุกอย่าง เพียงแต่พูดไม่ได้ ก็ไม่เข้าใจสังคมโซเซียล ทำไม่ต้องมาด่าๆ เรา ทำไมไม่ไปด่าคนที่ทำให้น้องเป็นแบบนี้ ตัวแม่เองกับครอบครัวและทีมแอดมินได้ตัดสินใจในส่วนนี้ไปแล้ว ครั้งนี้ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่หนักมาก ใจก็อยากสู้ต่อ แต่มีใครถามน้องบ้างไหม น้องเขารับไหวไหม คนเป็นแม่รับทุกอย่างทุกกระแส จนบางทีรับไม่ไหว แม่คิดแลัวแม่ทำทุกอย่างดีที่สุดแล้วในทุกๆ ด้าน ใครสงสัยอะไรให้มาถามได้เลยที่ร้าน ไม่ใช่เอาแต่ด่า
ในส่วนทางคดีก็เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ทางคู่กรณีก็ไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทำไม่คนที่จ้องจะด่า ไม่ไปด่าคู่กรณี สิ่งที่อยากจะบอกขอบคุณกำลังใจ และทุกสิ่งที่ยังมีคนดูแล และเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น ขอบคุณสังคมที่สนใจในเรื่องราวนี้ ไม่อยากพูดถึงคู่กรณี เรื่องราวมันเกิดขึ้นมา 11 ปีแล้ว ทำไมคนที่ทำเขาไม่รู้สึกอะไร อยากให้สังคมไปตามหาคู่กรณีดีกว่าเอาเวลามาคอมเมนต์ด่าแม่
Advertisement