สายการบินจากหลายประเทศทั่วโลก ทยอยนำเครื่องบินโดยสารของตน ที่ไม่ได้ใช้งาน เพราะผลพวงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ไปจอดทิ้งไว้ “กลางทะเลทราย” ที่ประเทศออสเตรเลีย
รายงานข่าวระบุว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้วมากกว่า 3,728,346 คน และทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 258,361 ราย ส่งผลทำให้เครื่องบินโดยสารจำนวนมากไม่ถูกใช้งาน เพราะเที่ยวบินระหว่างประเทศถูกยกเลิก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สายการบินสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ เตรียมปลดพนักงาน 5,000 คน
- นายกฯ ลั่น โอกาสครั้งสุดท้าย อุ้ม "การบินไทย" ยังไม่เคาะกู้ 7 หมื่นล้าน
หลายประเทศที่มีขนาดเนื้อที่ของประเทศค่อนข้างเล็กและมีเนื้อที่ใช้สอยจำกัด อย่างเช่นสิงคโปร์ จึงตัดสินใจนำเครื่องบินโดยสารของตนที่ไม่ได้ใช้งาน ไปจอดทิ้งเอาไว้กลางทะเลทรายที่เมือง อลิซ สปริงส์ของออสเตรเลีย โดยเสียเงินค่าเช่าพื้นที่ให้กับหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น
รายงานข่าวระบุว่า ทางการท้องถิ่นของเมืองอลิซ สปริงส์ ได้เงินค่าเช่าจำนวนมหาศาลจากสายการบินต่างๆ ที่นำเครื่องบินโดยสารมาจอดไว้กลางทะเลทรายที่นี่
ขณะที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านการบินยืนยันว่า การนำเครื่องบินโดยสารมาจอดทิ้งไว้กลางทะเลทรายที่มีสภาพอากาศร้อนจัดและแห้งแล้งเช่นนี้ ถือเป็นวิธีการที่ถูกต้องแล้วในการรักษาสภาพของเครื่องบิน เพราะสภาพอากาศกลางทะเลทรายจะไม่มีความชื้นหรือไอน้ำ มากัดกร่อนตัวเครื่องบินและชิ้นส่วนต่างๆ
ทั้งนี้ เมืองอลิซ สปริงส์ ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่แห้งแล้งกันดารที่สุดของออสเตรเลีย โดยตลอดทั้งปีเมืองแห่งนี้จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยระหว่าง 35-41 องศาเซลเซียส และมีประชากรอาศัยอยู่อย่างเบาบาง ราว 26,000 คนเท่านั้น
Advertisement