นายแสบ ยันไม่เกี่ยวข้องคดีฆาตกรรมยัดถัง200ลิตร
นายแสบ เปิดหน้าให้สัมภาษณ์ อมรินทร์ทีวี ยันไม่เกี่ยวข้องคดีฆาตกรรมยัดถังเผยขณะทำงานด้วยไม่เคยพูดคุยส่วนตัว ส่วนนายหวันก็ไม่ได้เป็นลูกน้องคนสนิท
ความคืบหน้าคดีฆาตกรรมอำพรางศพยัดถัง 200 ลิตร ทิ้งอ่างเก็บน้ำห้วยใหญ่ไพศาลี ในพื้นที่ ต.ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ซึ่งทางคดี ตำรวจ ระบุว่า ขณะนี้พบเบาะแสใหม่เพิ่มเติมในคดีฆาตกรรมดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้พุ่งเป้าที่นายจ้าง เพราะเพื่อนให้ข้อมูลว่า นายอ้วนจะเดินทางมาหานายจ้างก่อนหายตัวไป ซึ่งหลังจากพิสูจน์ แล้ว ก็ไม่พบความเชื่อมโยง แต่ที่มีพิรุธปกปิดเพราะเรื่องยาเสพติด โดยตำรวจบอกว่าในครั้งแรก ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นายจ้างน่าสงสัยแต่จากการตรวจสอบก็ตัดประเด็นไปได้บ้างแล้ว เพราะมีเป้าใหม่ และเบาะแสใหม่ เรื่องความขัดแย้ง กับผู้อื่น
ส่วนที่มีกระแส ว่ามีคนลวงนายอ้วนออกมา ให้นาย ส. ยิงแล้วถ่วงน้ำ ยืนยันตอนนี้ นาย ส. ยังไม่เกี่ยว ก่อนหน้าสงสัยเพราะคนหาปลาได้ยินเสียงปืนแล้วเห็นนาย แสบ เดินมา เลยคิดว่าจะโยงแต่ชัดเจนแล้วในเรื่องฆาตกรรมไม่น่าเกี่ยว รอเพียงข้อมูลโทรศัพท์ที่จะตอบทุกอย่าง โดยจากการตรวจสอบคนตายเปลี่ยนชื่อ3ครั้ง คือ นายกำจร ,นายจำกร, และนาย จุฑาเพชร ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าโดยปกติแล้วตัวผู้เสียชีวิตเอง เป็นคนที่มีพฤติกรรมไม่น่าไว้ใจทำให้หลายคนหวาดกลัว ทั้งเสพยา ทั้งหวาดกลัว มี 3 เป้า ตอนนี้ตัดนายจ้าง ออก 1 เหลือเพียง 2 เป้าหมาย เร่งหาหลักฐานพิสูจน์ทราบ เชื่อว่า 1-2 วันนี้จะสามารถปิดคดีนี้ได้
ขณะที่ ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้พูดคุยกับเพื่อนของนายอ้วน(ผู้สูญหาย) ที่เคยทำงานตัดไม้ด้วยกัน คือ นายนุ ซึ่งเป็นลูกจ้างของนายต้อย นายจ้างในพื้นที่อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ นายนุ เผยว่า ตนเองได้ร่วมงานกับนายอ้วนอยู่ประมาณ3-4วันก็มีความสนิทสนมกันมาก นายอ้วนเป็นคนนิสัยดี ขยันทำงาน แต่อีกด้านก็ยอมรับว่านายอ้วน เป็นคนติดยาเสพติด เท่าที่ตนเคยเห็น นายอ้วนจะเสพยาในช่วงเช้า ก่อนออกไปทำงาน ครั้งละ 1- 2 เม็ด ซึ่งทางด้านนายต้อยที่เป็นนายจ้าง ก็มักจะตักเตือนนายอ้วน เกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดอยู่บ่อยครั้ง
โดยก่อนที่นายอ้วนจะหายไป เจ้าตัวได้มองเห็น ลูกสาวของตนที่เป็นเด็กเล็ก แล้วก็เอ่ยปากขึ้นว่า ตนเองก็มีลูกชายอยู่คนหนึ่ง อยู่อยุธยา แต่ทิ้งเขามาหลายปีแล้ว เห็นเด็กน้อยเเล้วรู้สึกคิดถึงลูก อยากจะกลับไปหาลูกที่อยุธยา แต่ไม่มีเงิน
นอกจากนี้ นายอ้วน(ผู้สูญหาย) ยังพูดกับตน ว่าจะต้องไปเคลียร์ปัญหาบางอย่างกับผู้หญิงคนหนึ่ง เขาใช้คำเรียกว่า "พี่สาว" ซึ่งเป็นคนที่เคยทำงานรับจ้างตัดอ้อยด้วยกัน แต่ไม่ได้เล่ารายละเอียด ว่าเป็นปัญหาเกี่ยวกับอะไร หรือบุคคลที่อ้างถึงเป็นใคร แต่ตนสังเกตพฤติกรรมนายอ้วน รู้สึกร้อนรนเกี่ยวกับปัญหานี้มาก ซึ่งถ้าหากศพที่ถูกฆาตกรรมยัดถัง เป็นนายอ้วนจริง ตนเองเชื่อว่าปัญหามีเพียงเรื่องเดียว นั่นก็คือยาเสพติด เพราะเท่าที่สัมผัส นายอ้วนไม่ได้มีปัญหาเรื่องอื่น แต่จะดูร้อนรน และโหยหายาเสพติดมากเป็นพิเศษ
สำหรับความคืบหน้าทางคดีที่ก่อนหน้านี้ มี ฝากสื่อนำเสนอว่า ผู้ลงมือยิงนายอ้วนก่อน นำร่าง อำพรางด้วยการยัดถัง แล้วทิ้งอ่างเก็บน้ำ คือ นายส. ซึ่งเป็นคนสนิท และถือเป็นมือขวาของผู้สั่งการ และยังเป็นลูกน้องของผู้มีอิทธิพลและคนมีสี ล่าสุดผู้สื่อข่าวอมรินทรีวี ได้ติดตามเบาะแสของนายส. คนนี้จนทราบว่าชื่อนาย แสบและได้เดินทางไปหาที่บ้าน ก่อนจะได้พูดคุยกับพ่อ และครอบครัว
จากนั้นเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา นายแสบ ตัดสินใจเปิดหน้าให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวี โดยเขาระบุว่า ตัวเองได้เห็นข่าว ที่ ปรากฏแล้ว ยืนยันว่าตัวเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆ่ายัดถัง และยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงถูกพาดพิงได้ ทั้งที่ ตั้งแต่เกิดคดีนี้มาจนถึงวันนี้ ยังไม่มีตำรวจมาเรียกสอบปากคำหรือพูดคุยกับตัวเขาเลย และตัวเองก็ยังใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่ตามปกติ ไม่ได้หลบหนี
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนายหวัน ยอมรับว่าเคย ทำงานให้ รับจ้างขับรถ แต่ก็ไม่ได้ เป็นลูกจ้างประจำ หรือ เป็นคนสนิทตามที่มีการนำเสนอข่าว ส่วนนิสัยและพฤติกรรมของนายหวัน ก็ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ มีลูกน้องคนสนิทเพียงคนเดียว คือ ตาข่อย ส่วนนายอ้วนตัวเขาเองเคยร่วมงาน แต่ก็ไม่เคยพูดคุยกัน เป็นการส่วนตัว เพียงแค่เคยเห็นหน้า และไม่เคยมีความขัดแย้งกันมาก่อน
ซึ่งนายอ้วน และนายหวันจะมีความขัดแย้งอะไรหรือไม่ ตัวเองก็ไม่รู้ เพราะ ล่าสุดที่ทำงานให้นายหวันคือต้นเดือนเมษายน หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปทำงานให้อีก ส่วนนายอ้วนเอง หลังจากช่วงสงกรานต์ก็ไม่ได้เห็นในพื้นที่เช่นเดียวกัน จนกระทั่งมาทราบข่าว วันนี้ตัดสินใจจะเปิดใจ เพื่อชี้แจงประเด็นทั้งหมด ที่ถูกพาดพิง เพราะถึงขั้นบอกว่าเขาเป็นคนลงมือยิง ยิ่งเป็นไปไม่ได้
เพราะ ไม่เคยจับปืนมาก่อน ส่วนตัวมองว่าคดีนี้ ยังไงคนร้ายก็หนีไม่รอด และไม่มีทางทำคนเดียวได้ แน่นอน
Advertisement
