"ตี๋อ้วน" โร่เเจ้งความ หลังถูกอ้างชื่อตุ๋นร้านอาหารขอเงินบริจาค ย้ำ ไม่เคยเรี่ยไร

25 เม.ย. 60

00:03 น.

แชร์

คอนเทนต์แนะนำ

ประเดิมถอน "จรวดหลายลำกล้อง" วันนี้ หลังทหารไทย-เขมรจับมือยุติขัดแย้ง

นายกรัฐมนตรี ประชุมเอเปค รอบที่ 2 ชู 3 แนวทางเสริมศักยภาพเอเปค

ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 13.4 ล้านชีวิตเฮ! วันนี้เงินเข้า 1.7 พันบาท

กำลังกลายเป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์ เนื่องจาก เมื่อคืนที่ผ่านมา (23 เมษายน

2560) พิธีกรหุ่นน่ากอด " ตี๋อ้วน" นำชัย จรรยาฐิติกุล ได้ออกมาโพสต์คลิปแสดงความไม่พอใจ เพราะถูกมิจฉาชีพนำชื่อของตนไปแอบอ้างในการหลอกเอาเงินจากร้านอาหารที่เคยเข้าร่วมในรายการ "ตี๋อ้วนชวนหิว" ซึ่งตนเป็นพิธีกร โดยมีผู้เข้าชมคลิปดังกล่าวสูงถึง 288,000

คน โดยเพจ "แหม่มโพธิ์ดำ " โดยจับใจความสั้นได้ว่า "เมื่อคีนพี่ตี๋อ้วนทักเข้ามาในกล่องข้อความควีนเพราะลูกเพจแกแนะนำมา แกร้อนใจโดนมิจฉาชีพแอบแฝงชื่อ ไปหลอกลวงร้านอาหารที่แกเคยไปถ่ายรายการตี๋อ้วนชวนหิว จนเหยื่อหลายรายหลงโอนเงินไปให้ ตอนนี้ยังไม่ทราบยอดที่แน่ชัด เพราะไม่รู้มีใครหลงเชื่อบ้าง แกเลยขอพื้นที่ในการชี้แจงและฝากบอกร้านค้าทุกร้านว่าอย่าไปหลงเชื่อ "

ล่าสุด

(24 เมษายน 2560 ) เวลา 16.30 น . ทีมข่าวอมรินทร์ ได้เดินทางไปพบกับคุณ"ตี๋อ้วน" เพื่อสอบถามถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยเจ้าตัวได้เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้มีร้านอาหารจำนวน 3

ร้าน ส่งข้อความเข้ามาในแฟนเพจรายการ ตี๋อ้วนชวนหิว และถามคำถามเดียวกันว่า พรุ่งนี้ตี๋อ้วนมีคิวไปไหน ? ตนก็ได้แจ้งตารางงานของตัวเองให้ทราบ แต่ทางลูกเพจกลับตอบมาว่า " พี่ไม่ได้ไปทำบุญเหรอครับ เพราะมีทีมงานรายการชื่อคุณ “หน่อย” โทร.มาที่ร้านอาหาร บอกว่าให้ร่วมทำบุญกับพี่ตี๋อ้วน จำนวนเงิน 1,250 บา" ถ้าสนใจให้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร เลือกโอนได้ 2 บัญชี คือ อานิตา ค็อง และ พัชรินทร์ อนุชิตวงศ์" ตนรู้สึกงงและนึกเอะใจขึ้นมา ว่าน่าจะเป็นมิจฉาชีพทีมเดียวกันกับเมื่อปีที่แล้ว

แต่กรณีหลอกเงินทำบุญเพิ่งทราบเมื่อคืนที่ผ่านมา และรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก ตนจึงได้รวบรวมหลักฐาน ก่อนจะเข้าแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวันกับเจ้าหน้าที่ไว้ก่อน

ส่วนช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนได้ลองให้ทีมงานปลอมตัวเป็นภรรยาเจ้าของร้าน ต่อสายไปยังกลุ่มอิจฉาชีพตามเบอร์ที่แจ้งไว้ ตอนแรกปลายสายก็ยอมรับว่าตัวเองคือ"หน่อย" แต่พอโทรศัพท์ไปอีกครั้ง เหมือนกลุ่มมิจฉาชีพจะรู้ตัว เพราะได้มีการบ่ายเบี่ยงว่า นี่ไม่ใช่เบอร์ของหน่อย โทรมาทำไม คงเป็นเบอร์โอนมา ตนชื่อ"น้อย" ตนรู้สึกทนไม่ไหว จึงคว้าโทรศัพท์มาคุยเอง บอกว่า "ผมนี่แหละตี๋อ้วน ไม่ว่าคุณจะเป็นน้อยหรือหน่อย ตอนนี้ GPS ติดตามโทรศัพท์คุณได้แล้วว่าคุณอยู่ที่ไหน " ปลายสายถูกตัดทิ้งและปิดเครื่องทันที

อย่างไรก็ตาม "ตี๋อ้วน"ทราบว่ามีอีกหลายรายการที่โดน แต่ไม่อยากออกมาพูด ส่วนตัวรู้สึกว่าถ้าไม่ออกมาพูด ก็จะมีคนโดนหลอกอีกเรื่อยๆ ตอนนี้มีร้านอาหารที่โดนหลอกและออกมาแสดงตัวแล้วประมาณ 4-6 ร้าน พร้อมฝากทิ้งท้าย หากมีกิจกรรมอะไร ต้องเป็นตี๋อ้วนเท่านั้นที่ออกมาพูด จะไม่มีการโทรศัพท์ไปหาไปเด็ดขาด และอยากให้ผู้ที่เดือดร้อนหรือโดนหลอก รวมตัวกันเพื่อเข้าแจ้งความ เพื่อเข้าสู่กระบวนการจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป และวอนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดำเนินคดีกับเรื่องที่เกิดขี้น เพราะกลัวจะมีผู้ที่ได้รับความเสียหายมากขึ้นกว่านี้