หนุ่มเข้าร้องเพจสายไหมต้องรอด สุดงง ตัวติดคุก แต่ถูกออกหมายจับเฉย แถมตำรวจที่ทำคดีก็ย้ายไปแล้ว ใครจะรับผิดชอบ
ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด ซอยสายไหม 38 เมื่อเวลา 11.12 น. วันที่ 20 ก.พ.67 นายธีรวุฒิ ฉิ่งระห้อย หรือแมน อายุ 35 ปี ทำอาชีพรับซื้อของเก่า เข้าพบนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและเป็นผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ขอความช่วยหลังถูกออกหมายจับคดีทำร้ายร่างกาย ทั้งที่ตัวยังรับโทษคดียาเสพติดอยู่ในเรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายธีรวุฒิ กล่าวว่า ตนมาทราบว่า มีหมายจับติดตัวทั้งที่ไม่ได้กระทำผิด เพราะไปทำเรื่องย้ายทะเบียนบ้านไปอยู่บ้านแม่ แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่าย้ายไม่ได้ เนื่องจากตนมีคดีที่ถูกออกหมายจับในข้อหาทำร้ายร่างกาย เมื่อปี 2561 ตนจึงเอาเอกสารที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ระบุวันที่ถูกจำคุก 4 ปี 2 เดือน คดี พ.ร.บ.ยาเสพติด ที่เรือนจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย.2559 - วันที่ 4 ม.ค.2564 ยืนยันว่าไม่ใช่ผู้กระทำผิดตามหมายจับดังกล่าว
นายธีรวุฒิ กล่าวว่า กรณีนี้ทำให้ตนเสียโอกาสที่จะไปทำงานต่างประเทศ ที่ผ่านมาได้ติดต่อไปยังพนักงานสอบสวน สภ.อุทัย เพื่อให้ถอนหมายจับตน แต่ทางตำรวจกลับแนะนำให้ตนรับไปตามหมายจับ เพื่อไปสู้คดีในชั้นศาล แต่ตนคิดว่าตนไม่ได้กระทำความผิดทำไมต้องไปรับเป็นคดีขึ้นศาลอีก และขณะนี้พนักงานสอบสวนที่ออกหมายจับได้ย้ายไปแล้ว จึงต้องมาขอความช่วยเหลือกับทางเพจสายไหมต้องรอด
นายเอกภพ กล่าวว่า กรณีนี้ตัวเขาไม่ได้กระทำผิด เพราะติดคุกอยู่ ทำให้ต้องมีหมายจับทั้งที่ไม่ได้กระทำความผิด การออกหมายจับเช่นนี้ เจ้าหน้าที่จะอ้างว่าไม่จริง มีหลักฐาน แต่กรณีนี้ตนไม่รู้ว่าตำรวจจะอ้างยังไงเพราะว่า มันชัดเจนว่าตัวเขาอยู่ในเรือนจำ ช่วงเวลาที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสำนึกผิด เมื่อออกหมายจับผิด ต้องเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบ ไม่สามารถไปทำงานต่างประเทศได้ เกือบถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมหลายครั้ง ฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อุทัย ตรวจสอบ การกระทำของท่านจะถูกร้องเรียนต้องเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 จากนี้จะประสานไปยัง พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิไล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ช่วยสั่งการแก้ไขกรณีนี้ต่อไป.
Advertisement