จ่อขอศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาปล้นบุหรี่ไฟฟ้า-คิง ติดต่อขอมอบตัว
จ่อขอศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ถอยรถชนรปภ.ดับ ล่าสุดติดต่อขอมอบตัวอีก 1 คุมตัว “นายเจ” รับของโจร ไปฝากขังศาล ลั่น“เจอที่ไหน มึงตายแน่”
จากกรณีเกิดเหตุกลุ่มคนร้าย เป็นชายฉกรรจ์ประมาณ 4 - 5 คน ขับรถตู้ บุกโกดังสเตเดียม การท่าเรือฯ งัดตู้คอนเทนเนอร์ เก็บของกลางบุหรี่ไฟฟ้าของกรมศุลกากร เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนขับรถหลบหนีโดยถอยรถพุ่งชน และทับ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือ รปภ. ที่พยายามเข้าสกัดจับ เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ ซึ่งความคืบหน้าตำรวจคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 2 คนสอบปากคำ พบว่าเป็นผู้ที่ให้ที่พักเก็บบุหรี่ไฟฟ้า โดย 1 ใน 2 ผู้ต้องสงสัย ถูกแจ้งข้อหา “รับของโจร”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมื่อวานนี้ (2มิ.ย.68) ตำรวจสามารถคุมตัวนายดิศรณ์ หรือ นายเจ อายุ 41 ปี ซึ่งมีหน้าที่รับฝากของจากกลุ่มผู้ก่อเหตุ 6 คนมาสอบปากคำ และแจ้งข้อหารับของโจร โดยจากการสอบปากคำนายเจ ทำให้สามารถขยายผลไปถึงผู้ก่อเหตุอีก 6 คนได้ ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังไปยื่นขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมด 6 คน ข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่มกันบุกรุก และมีข้อหาอื่นๆอีกที่ต้องพิจารณา ซึ่งตำรวจเชื่อว่าตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 คน ยังอยู่ในกรุงเทพมหานคร ไม่ได้หลบหนีไปไหน โดยตำรวจชุดสืบกระจายกำลังติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้ง 6 อยู่ หากหมายจับออกก็จะสามารถจับได้ทันที
ส่วนเรื่องกล้องวงจรปิดนั้นสามารถได้ภาพแค่ตอนที่ชนผู้ตายเสียชีวิต แต่ไม่สามารถจับภาพขณะปล้นได้ โดยคาดว่าคนชี้เป้าน่าจะเป็นคนในชุมชน ส่วนเรื่องรายละเอียดต่างๆยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ล่าสุดเวลา 09.30 น. พนักงานสอบสวน ควบคุมตัวนายดิสรณ์ อายุ 41 ปี หรือ นายเจ ไปขออำนาจศาลอาญากรุงเทพฯใต้ฝากขัง ในข้อหารับของโจร โดยระหว่างที่ควบคุมตัวขึ้นรถ ผู้ต้องหาได้เรียกร้องขอความเป็นธรรมบอกว่าตัวเองไม่ผิด ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุก็รู้จักแค่นายจีเพียงคนเดียว โดยหลังเกิดเหตุนายจีกับพวกอีก 2 คน ได้เอาบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 2 กล่องมาฝากไว้ โดยไม่ได้ให้ค่าจ้าง เพราะว่ารู้จักกับนายจีตั้งแต่สมัยยังเด็ก ตอนนี้รู้สึกโกรธแค้นนายจีเป็นอย่างมาก ถึงกับลั่นวาจาว่า "ถ้าหากเจอที่ไหน ตายแน่ เพราะทำให้เขาต้องมาติดคุกแบบนี้ อยากจะประกันตัว แต่ไม่มีเงิน" อีกทั้งยังรู้สึกเสียใจที่ถูกเพื่อนทำแบบนี้ อยากให้มอบตัว มาติดคุกแทนตัวเอง เนื่องจากรู้สึกเป็นแพะรับบาป
ทั้งนี้เมื่อวานนี้ตำรวจยังสามารถคุมตัวนายเบิร์ด ที่เป็นผู้ต้องสงสัย 1 ใน 6 ผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำ ขณะนี้ตัวนายเบิร์ดยังถูกสอบปากคำที่สน.ท่าเรือ อยู่
ขณะเดียวกัน นายภียกร หรือคิง หนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้ติดต่อมายังผู้สื่อข่าวเพื่อเตรียมประสานเข้ามอบตัวกับตำรวจในเร็ววันนี้ รวมทั้งเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองไม่ได้ตั้งใจที่จะร่วมฆ่าและทำให้เหตุการณ์บานปลายแบบนี้ รวมทั้งตนเอง ไม่ได้อยู่ในรถขณะถอยชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย แต่ยอมรับว่า พวกตนจะไปขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางจริง เนื่องจากนายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์รู้ว่า มีบุหรี่ไฟฟ้าอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์จริง จึงได้มาชวนให้ตนไปร่วมก่อเหตุเมื่อเวลาประมาณ 5 ทุ่มของวันเสาร์ที่ 31 พฤษภาคม ก่อนที่จะไปเอารถที่อู่ประดับยนต์ย่านคลองเตยในช่วงเที่ยงคืนแล้วไปก่อเหตุ มีนายแบงค์ เป็นคนขับรถคันดังกล่าว ส่วนตนเองมีหน้าที่แค่ไปช่วยยกของ ซึ่งบุหรี่ไฟฟ้าที่ขโมยได้ นายแบงค์จะนำไปขายต่อ นายแบงค์ จึงเป็นตัวการใหญ่สุดของเหตุการณ์นี้
อย่างไรก็ตาม นายคิงยั งได้ฝากขอโทษถึงครอบครัวผู้เสียชีวิตและไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์จะบานปลายแบบนี้ ขนาดตอนที่รถตู้ถอยไปชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตนเองก็ได้เดินกลับมายืนดูด้วยความชะงัก เพราะไม่คาดคิดว่าจะกล้าถอยรถไปชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ก่อนตนเองจะหลบหนีแยกไปคนเดียว ซึ่งตนเองก็ยังไม่ได้ติดต่อใครเลย และก็มีความกลัวว่าจะถูกดำเนินคดีเรื่องฆ่าคนตาย เพราะยืนยันว่าตนเองไม่ได้อยู่บนรถขณะถอยชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
Advertisement
