ตำรวจ ดส. เปิดปฎิบัติการตรวจค้น จับกุมดาวทวิตเตอร์ ทำคลิปโอนลี่แฟน กลุ่มลับ เด็กผู้ชายขาย พบเงินหมุนเวียนหลักล้าน
วันที่ 22 ธ.ค. 66 ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี (ดส.) นำหมายศาลจังหวัดปทุมธานี เข้าตรวจค้นบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านคลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังสืบทราบว่าเป็นสถานที่ถ่ายทำ และทำคลิปวิดีโอมีเพศสัมพันธ์กับเด็กชายขายในโลกออนไลน์
ซึ่งทันทีที่ตำรวจเข้าไปภายในบ้านพักหลังดังกล่าว พบนายณพนันท์ อายุ 27 ปี เจ้าของชื่อบัญชีทวิตเตอร์ โอนลี่แฟน หลังตำรวจ ดส.พบว่า มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี ถูกล่อลวงให้มาถ่ายคลิปมีเพศสัมพันธ์ และอนาจาร ก่อนนำคลิปไปโพสต์ในกลุ่มไลน์ลับ และ โอนลี่แฟน เพื่อหาผลประโยชน์
ตำรวจได้เข้าตรวจยึดโทรศัพท์มืิถือ 3 เครื่อง แท็ปเล็ต 2 เครื่อง และอุปกรณ์ถ่ายคลิป ชุดไฟ และเสื้อเด็กนักเรียนที่ใช้ถ่ายคลิป สอบถามเจ้าตัวให้การรับสารภาพได้ถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์กับเด็กชายขายในกลุ่มไลน์ลับ ทวิตเตอร์ และโอนลี่แฟนจริง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะทักไปหา และชวนมาถ่ายคลิปที่บ้านหลังนี้ ทำมา 1 ปีกว่า อ้างว่ามีรายได้เดือนละ ประมาณ 20,000 บาท ที่ทำแบบนี้ เพราะเห็นว่ามีคนทำและมีรายได้ดีและตนเองก็หาเรียนด้วยจึงหันมาทำคลิปแนวนี้
พ.ต.ท.วรปรัชญ์ วุฑฒิรักษ์ รอง ผกก.ดส. จากการสืบสวนพบบุคคลเปิดกลุ่มไลน์วีไอพี เชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปเข้าเป็นสมาชิกแล้วก็เผยแพร่คลิปลามกอาจารย์ของเด็กที่ต่ำกว่าอายุ 18 ปี จนกระทั่งสืบทราบว่าคนร้ายได้มาพักอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้ จึงทำการขออนุมัติหมายศาลเข้าค้นและจับกุม ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีเหยื่อเป็นเด็กอายุ 17 ปี ซึ่งส่วนนี้ต้องขยายผลต่อ
เบื้องต้นผู้ต้องหา รับว่าตนเป็นเจ้าของกลุ่มไลน์จริง ได้รับผลประโยชน์ได้รับเงินจากลูกค้าจริงรับแล้วก็เป็นผู้ถ่ายคลิปจริง จำนวนเงินหมุนเวียนช่วงปีนี้ประมาณ 1,000,000 กว่าบาท แต่ว่าก็ยังแยกไม่ได้ว่าเป็นเงินอะไรจะต้องเรียกตรวจสอบอีกครั้ง
คดีนี้ทำการจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ซึ่งเป็นแฟนกันคนหนึ่งเป็นเจ้าของแอกเคาท์ อีกคนเป็นเจ้าของบัญชี ซึ่งต้องทำการสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่อย่างไร
สำหรับข้อหาในการเอาผิดผู้ต้องหาเบื้องต้นคือ มาตรา 287/1 ผู้ใดครอบครองสื่อลามก อนาจารเด็กเพื่อแสวงหาประโยชน์ในทางเพศสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ต้องระหว่างโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือ ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าผู้กระทำความผิดตามวรรคหนึ่งส่งต่อซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็กแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิดเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
Advertisement