7 ข้อควรรู้ เมื่อเกิดเหตุไฟฟ้ารั่วไหล พร้อมกับมีน้ำท่วมขังในพื้นที่

17 ก.ย. 65

11:35 น.

แชร์

โฆษกสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน เผย 7 ข้อควรรู้ และวิธีสังเกตเมื่อเกิดเหตุไฟฟ้ารั่วไหล พร้อมกับมีน้ำท่วมขังในพื้นที่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ถอดปัญหาอินโดฯ โลกร้อน มลพิษและมนุษย์ สาเหตุเกาะ-เมืองหลวงเสี่ยงจมทะเล

น้ำท่วมน่านเริ่มคลี่คลาย พ่อค้าแม่ค้าทยอยเปิดร้าน เร่งฟื้นฟูพื้นที่

"รมว.อรรถกร" ระดมกำลังเปิดปฏิบัติการเร่งฟื้นฟูพื้นที่น้ำท่วมน่าน

จากกรณีที่มีนักเรียนในจังหวัดอุดรธานีประสบอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าดูดขณะที่มีน้ำท่วมในพื้นที่ จนทำให้ต้องส่งตัวผู้บาดเจ็บไปยังโรงพยาบาลถึง 5 รายในวันเดียวกันตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น (อ่านข่าวคลิก)

ล่าสุด ทางด้านของ ว่าที่ร.ต.การันต์ ศรีวัฒนบูรพา ผช.โฆษกสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หรือ สพฉ. ได้นำความรู้สำหรับป้องตัวเองขณะน้ำท่วมและมีไฟฟ้ารั่วไหลจากรายการ "ไม่ตายหรอกเธอ" ซึ่งให้ข้อมูลโดยอาจารย์คณะวิศวกรรมไฟฟ้า เทคโนโลยีลาดกระบัง ผ่านเฟซบุ๊ก การันต์ ศรีวัฒนบูรพา ระบุว่า

1. เมื่อไฟฟ้ารั่วลงน้ำจะมีรัศมีของมัน แผ่ออกไปจากจุดที่รั่ว เมื่อเราเดินลุยน้ำแล้วเข้าไปใกล้จุดที่ไฟฟ้ารั่ว จะเริ่มรู้สึกคันยิบๆ ยิ่งเข้าใกล้เท่าไหร่ ก็จะรู้สึกเจ็บมากขึ้น ฉะนั้นแล้วการเดินลุยน้ำ ให้เดินช้าๆ ถ้าไปตรงไหนแล้วรู้สึกชาหรือคันยิบๆ ให้เดินถอยออกมาทางเดิม

2.หากมีวัตถุที่เป็นโลหะอยู่ใกล้จุดที่ไฟรั่ว จะยิ่งทำให้การเหนี่ยวนำของไฟฟ้าแรงขึ้น รัศมีของไฟรั่วจากกว้างขึ้น โลหะหลายชนิดที่แช่อยู่ในน้ำแล้วมีกระแสไฟฟ้า มักจะเห็นฟองอากาศผุดขึ้นมา อย่าเข้าไปใกล้เด็ดขาด

3.การทดลองจับวัตถุต่างๆ ในน้ำให้ใช้หลังมือสัมผัส เพราะเมื่อถูกไฟดูดแขนจะกระตุกกลับเข้าหาตัว

4.การเดินระบบไฟฟ้าในบ้านที่เสี่ยงต่อการถูกน้ำท่วม ควรติดตั้งระบบ Earth Leak Breaker (อันเดียวกับที่ติดตั้งในเครื่องทำน้ำอุ่น) เพื่อตัดกระแสไฟฟ้าทันทีที่มีไฟรั่ว

5.เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เคยถูกน้ำท่วมและมีไฟรั่ว ไม่ควรนำกลับมาใช้ใหม่เนื่องจากระหว่างที่ไฟรั่วอาจทำให้สายไฟต่างๆ เสื่อมสภาพ เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้ในภายหลัง

6.ควรใส่รองเท้าบู๊ทยาง เมื่อต้องเดินลุยน้ำ

7.การช่วยผู้ถูกไฟดูดในน้ำท่วม ควรดูความปลอดภัยของผู้ช่วยเหลือเป็นหลัก หลังจากช่วยออกมาแล้วให้รีบพาขึ้นสู่ที่แห้ง โทร.1669 หากพบว่าหมดสติไม่หายใจ ให้รีบทำ CPR