จากกรณี นักเรียนชายชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุทัยธานี ใช้ความรุนแรงต่อครูผู้สอน หลังไม่พอใจผลคะแนนสอบ ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 12 ส.ค. 68 ที่สภ.หนองฉาง น.ส.ภรณ์ทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ครูสาวผู้ถูกกระทำ ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมี พ.ต.อ.อนันต์วงศ์ ศรีสุนทร ผกกสภ.หนองฉาง ควบคุมการสอบสวน เพื่อให้คดีรัดกุม เนื่องจากเป็นเยาวชนที่ก่อเหตุ
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองฉางได้สอบปากคำทางคุณครู และเยาวชนเป็นที่เรียบร้อย พร้อมประสานไปยังหน่วยงาน เพื่อสอบเพิ่มเติม เนื่องจากผู้ก่อเหตุนั้นอายุไม่ถึง 18 ปี จึงได้ให้สหวิชาชีพของจังหวัดอุทัยธานีดำเนินการการสอบปากคำตามกฎหมายเด็กเยาวชนต่อไป
ล่าสุดทางพนักงานสอบสวน สภ.หนองฉาง ได้เชิญครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้ไปยังห้องที่เกิดเหตุ เพื่อทำแผนที่โรงเรียน บริเวณห้องที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นห้องพิเศษสำหรับนักเรียนที่เรียนเก่งจะได้ประจำอยู่ห้องเรียนดังกล่าว พร้อมกับพาเจ้าหน้าที่ตำรวจไปชี้จุดที่เกิดเหตุ
โดย น.ส.ภรณ์ทิพย์ เปิดเผยว่า ตนเองเป็นครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ และได้มาตรวจข้อสอบวิชาคณิตศาสตร์ ขณะเกิดเหตุนั้นกำลังนั่งตรวจข้อสอบของนักเรียนอยู่ จู่ๆ นักเรียนดังกล่าวก็ได้ไม่พอใจได้เข้ามาทำร้ายครู เนื่องจากเด็กนักเรียนดังกล่าวได้คาดหวังว่าจะได้คะแนนที่สูงกว่านี้ แต่ก็ไม่ได้เป็นที่คาดหวัง จนเกิดไม่พอใจ ได้ก่อเหตุทำร้ายครูตามคลิป พร้อมกับอธิบายผลคะแนน
หลังจากนั้นได้มีครูสอนวิชาสังคม ซึ่งมีห้องติดกับห้องที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ทราบว่าช่วงที่เกิดเหตุ เด็กออกไปส่งงานวิชาอื่นกัน ช่วงนั้นจะมีเด็กนักเรียนชายอยู่กัน 2 คน นอกนั้นเป็นผู้หญิง โดยสู้แรงผู้ชายไม่ไว้ ได้มีเด็กผู้หญิงเข้ามากอดครูเข้าไว้ และทราบว่าเมื่อปีก่อนนั้น ก่อเหตุนั้นได้ขึ้นรับส่งนักเรียน และมีเด็กนักเรียนหญิงส่งเสียงดัง ผู้ก่อเหตุก็ลุกไปตบ และทราบว่าผู้ก่อเหตุนั้นยากได้ผลคะแนนดี เพราะอยากจะไปสอบเป็นนายร้อยในวิชาคณิตศาสตร์ ทำให้มีความตั้งใจสูง จึงกดดันตัวเอง และก่อเหตุดังกล่าว
นอกจากนี้ นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ได้มอบหมายให้นาย สิรภพ นิยมเดช นายอำเภอบ้านไ ร่ลงพื้นที่ติดตามและเยี่ยนเยียนครูสาวที่ถูกนักเรียนชั้น ม.5 ทำร้ายร่างกายจนสาหัส พร้อมนำกระเช้ามามอบของ เพื่อส่งกำลังใจ พร้อมกับกำนันผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากันจนเต็มหน้าบ้านของครู พร้อมกำชับมาว่าหากทางครูต้องการอะไร หรือให้ทำอะไรให้ขอให้รีบบอกมาจะจัดการให้ทุกอย่าง
ส่วนเด็กชั้น ม.5 ทางแพทย์ได้ออกมาพูดว่าเข้าข่ายเป็น โรคไออีดี หรือ โรคระเบิดอารมณ์เป็นระยะ เป็นภาวะทางจิตเวชที่ผู้ป่วยมีการระเบิดอารมณ์รุนแรง และหุนหันพลันแล่นอย่างที่ไม่สมเหตุสมผล เมื่อเทียบกับสถานการณ์ที่กระตุ้น อาการเหล่านี้อาจรวมถึงการทำร้ายร่างกาย การทำลายทรัพย์สิน หรือการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวอื่นๆ อีกด้วย และในเรื่องของครูในการฟ้องร้องดำเนินคดีกับเด็กชายคนดังกล่าว ก็ขอให้ทางครอบครัวครูนั้นตัดสินใจเอง หรือจะเรียกร้องค่าเสียหายอะไรก็ทำได้เลย
ขณะเดียวกันทางครู ได้ออกมาเปิดใจกับผู้สื่อข่าวด้วยหน้าตาที่มีกำลังใจ และยิ้มแย้มแล้วบอกว่า ตอนนี้มีคนส่งกำลังใจให้เยอะมาก รวมถึงมาเยี่ยมที่บ้าน ซึ่งก็ขอขอบคุณมากทั้งหน่วยงาน และครูผู้ร่วมอาชีพเดียวกัน ตอนนี้ไม่คิดจะลาออกแล้ว ก็เพราะว่ามีนักเรียนนั้นโทรมาหา และแสดงความห่วงใย คำที่นักเรียนพูดนั้นมีอีกคำหนึ่งที่เป็นแรงที่ฮึดขึ้นสู้ ก็คือรอครูกลับมาสอนพวกหนูอีกนะ ส่วนในรูปของคดีไม่ขอพูดถึงในตอนนี้ ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว ซึ่งในช่วงเช้านั้นได้ทางตำรวจ สภ.หนองฉางนั้นได้เรียกไปสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งแล้ว และได้สัญญากับเด็กว่ารอให้ครูรักษาร่างกายและจิตใจให้พร้อมก่อน จะรีบไปสอนนักเรียนอย่างแน่นอน
Advertisement