องค์หญิงกัมพูชา แจ้งจับองค์หญิงกำมะลอ แอบอ้างทำเสื่อมเสียชื่อเสียง จนเข้าไทยไม่ได้

องค์หญิงโกโสมะ โชว์เอกสารทางการกัมพูชา การันตีเป็นองค์จริง หลังเจอองค์หญิงกำมะลอแอบอ้าง ทำเสื่อมเสียชื่อเสียง เข้าไทยไม่ได้

เมื่อ 11.45 น. วันที่ 2 มิ.ย. ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ถนนพหลโยธิน จตุจักร กทม. โดยสมาชิกราชวงศ์แห่งอาณาจักรกัมพูชา ประกอบด้วยองค์หญิงโกโสมะ เตวี นโรดม, เจ้าหญิงบุปผานี นโรดม (พระมารดา) และ เจ้าหญิงศุภะนารีนโรดม

ภายหลังองค์หญิงโกโสมะ เตวี นโรดม แจ้งความ พงส.บก.ป. และ บก.ปอท.แจ้ง ได้ร่วมกับ ดร.เสกสรรณ ประเสริฐ และคณะผู้ติดตาม แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนอีกครั้งถึงเหตุผลที่มาแจ้งความในวันนี้ว่า ได้แจ้งความดำเนินคดี กับเจ้าหน้าที่รัฐ และผู้เกี่ยวข้องในความผิดฐานหมิ่นประมาท และขอให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี หลังมีกระแสข่าวในประเทศไทยว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงกำมะลอ ทั้งนี้มีเอกสารหนังสือยืนยันตัวตนชาติกำเนิด จากสถาบันกษัตริย์กัมพูชามามอบเป็นหลักฐานให้กับตำรวจ บก.ป.และ บก.ปอท.

องค์หญิงโกโสมะ เตวี นโรดม เปิดเผยว่าแม่ของตนเป็นลูกพี่ลูกน้องกับพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี (เจ้านโรดมสีหมุนี) เมื่อประมาณวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา จังหวัดสุรินทร์มีการออกหนังสือแจ้งเตือนการเดินทางเข้ามาของเจ้าหญิงกำมะลอ เป็นจังหวะที่ตัวเองจะเดินทางมาร่วมงานที่กรุงเทพฯ สมาคมสตรีไทยสากล ผ่านทางด่านจังหวัดสุรินทร์ ทำให้ไม่สามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้ เพราะถูกเข้าใจว่าเป็นองค์หญิงตัวปลอม และเจ้าหน้าที่อ้างไม่ได้มีหน่วยงานใดประสานงานมา ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง และเกิดความทุกข์ใจจนล้มป่วย

ขณะเดียวกันก็มีบุคคลที่แอบอ้าง เป็นหญิงกัมพูชาเดินสายออกงานในสุรินทร์ จนทำให้เกิดความสงสัย เข้าใจผิด เสื่อมเสียชื่อเสียง ส่วนตัวรู้จักผู้หญิงคนนี้ เป็นชาวกัมพูชา แต่มีการแอบอ้างใช้ชื่อคล้ายคลึงกัน ทำให้สังคมเข้าใจผิด โดยใช้ชื่อว่า พระองค์เจ้าศรีสุวัตถิ์ กุสุมะนารีรัตน์ แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา จึงอยากให้ตำรวจดำเนินการเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ ที่ไม่มีการตรวจสอบข้อมูล และจับกุมบุคคลที่แอบอ้างมาลงโทษ ส่วนที่เดินทางเข้าไทยได้เมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากมีหน่วยงานเอกชนในไทยประสานไป จนเข้ามาดำเนินการเรื่องธุรกิจจึงเดินทางเข้าไทยได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่สร้างความสับสนจนมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับองค์หญิงกำมะลอนั้น เนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 19 มีนาคม ที่ผ่านมาจังหวัดสุรินทร์ มีการออกหนังสือประกาศ ที่ สร 0017.3/ว1625 เรื่องการแอบอ้างเป็นสมาชิกราชวงศ์กัมพูชา ลงวันที่ 29 มี.ค.2565 ถึงผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ และนายอำเภอทุกอำเภอ


หนังสือมีใจความว่า ด้วยกระทรวงมหาดไทย ได้รับแจ้งจากกระทรวงต่างประเทศว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับข้อมูลเกี่ยวการเสด็จฯ เยือนประเทศไทยของพระองค์หญิงโกโสมะ เตวี นโรดม สมาชิกพระราชวงศ์กัมพูชา ระหว่างวันที่ 18-19 มี.ค.65 จากการตรวจสอบข้อมูลจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ พบว่า ไม่มีสมาชิกราชวงศ์กัมพูชาที่ทรงใช้พระนามว่าพระองค์หญิงโกโสมะ เตวี นโรดม อีกทั้งบุคคลที่อ้างตนเป็นพระองค์หญิงโกโสมะ เตวี นโรดม ยังมีหน้าตาเหมือนกับบุคคลที่แอบอ้างเป็นพระองค์เจ้าสีสุวัตถ์ กุสุมานารีรัตนา ที่เดินทางมาจังหวัดเมื่อปี พ.ศ. 2560

โดยหนังสือเดินทางบุคคลดังกล่าว เป็นหนังสือเดินทางธรรมดา ระบุชื่อว่า Kosomaktevy Pich ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศยังไม่ได้รับคำขอ Thailand Pass เพื่อเดินทางเข้าประเทศไทยทางอากาศยานของบุคคลดังกล่าว

ทางจังหวัดสุรินทร์ จึงขอให้ท่านเฝ้าระวังบุคคลดังกล่าว ไม่ให้แอบอ้างเพื่อให้อำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าราชอาณาจักรไทยเป็นกรณีพิเศษและให้ปฏิบัติตามแนวทางการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) กำหนดโดยเคร่งครัด และติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบต่อไป ขอแสดงความนับถือ ลงชื่อ นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์

ภายหลังแถลงข่าวเสร็จ คณะองค์หญิงฯ ได้เดินทางไปยังสถานทูตกัมพูชา เพื่อดำเนินการด้านเอกสารให้เรียบร้อย โดยวันพรุ่งนี้ ( 3 มิ.ย.65) มีกำหนดการเดินทางไปถวายพระบรมราชินี ในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ พระบรมมหาราชวัง

คอนเทนต์แนะนำ

โฆษกเพื่อไทยแจง ไม่เคยพูดว่า "ทักษิณ" ป่วยวิกฤต

มีหนาว! กางกฎหมายขายเหล้าวันพระใหญ่ เจ้าของร้านอาจต้องรับผิดร่วม

ไพบูลย์ เชื่อมติแพทยสภาเป็นหลักฐานสําคัญชี้ชะตา ทักษิณ ไต่สวน 13 มิ.ย.