
ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตปลัดกระทรวงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า ไทยชนะสงครามและจะต้องชนะสันติภาพด้วย ต้องขอแสดงความนับถือและยินดีกับกองทัพไทยที่สามารถรบชนะกองทัพเขมรได้อย่างราบคาบ พวกท่านได้ทำเยี่ยงที่บรรพบุรุษไทยได้เคยกระทำมาแล้ว ขอจงภูมิใจ แต่ชัยชนะในสงครามย่อมมีความสูญเสียเป็นธรรมดา วีรบุรุษผู้กล้าทั้ง 26 ท่าน จะได้ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทยไปชั่วนิจนิรันดร์ ในการนี้ ผมขอเสนอให้สร้างอนุสาวรีย์ให้กับทุกท่านเป็นขนาดเท่าตัวจริงและหน้าเหมือนจริง
การยุติสงครามเป็นเรื่องถูกต้อง โดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีอาณาเขตติดต่อกันถึง 800 กิโลเมตรและทางด้านทะเลอีกต่างหาก แต่ถ้าจะให้วิจารณ์คงจะเป็นเรื่องลีลาทางการเมืองของนายกอนุทินที่พูดแบบงอแงให้ฟังดูเหมือนรักษาเกียรติ เช่น การบอกเลิกข้อตกลงที่ KL การพูดว่า ลืมแล้วว่าพูดอะไรไปบ้าง และเพื่อให้ดูว่า เป็นผู้นำ ถึงกับไปท้าทายประธานาธิบดีสหรัฐและลามไปถึงจีนด้วย ซึ่งใครๆ ก็อ่านออกว่า เป็นการปลุกชาตินิยมเพื่อหาเสียง และผลที่ได้วันนี้ก็คือ การถูกด่านั่นเอง ก็นับว่าสาสมแล้ว ที่สำคัญอีกเรื่องก็คือ ความจริงได้มีการเจรจาผ่านสหรัฐและจีนมาตลอด เห็นไหมว่า ทันทีที่หยุดยิง ทางจีนก็เชิญให้ไปนั่งคุยกันสามฝ่ายที่ยูนนานทันที ซึ่งโฆษกกระทรวงการต่างประเทศก็ยอมรับว่า ได้นัดกันมาก่อนหน้านี้แล้ว มันไม่ควรหลอกประชาชนนะครับ
สิ่งที่ยากและท้าทายข้างหน้าคงจะไม่ใช่การทำสงครามแบบวันนี้อีกต่อไปแล้ว แต่จะเป็นเรื่องการบริหารชายแดนไทย-กัมพูชาให้ดำรงสันติสุขตลอดไป ผมอยากเสนอข้อคิดเล็กๆน้อยๆไว้เพื่อรัฐบาลข้างหน้าและฝ่ายทหารจะได้พิจารณา ดังนี้
1. ด่านถาวรต้องทำให้มั่นคงและมีอาณาเขตที่ชัดเจน พื้นที่ว่างระหว่างประตูด่านให้จัดเป็นฉนวนและไม่ให้มีร้านค้าและการอยู่อาศัย ให้ปล่อยว่างๆไว้
2. ด่านชั่วคราวก็ควรชั่วคราวจริงๆ และต้องไม่มีการสร้างร้านค้าหรือที่อยู่อาศัย
3. บนสันเขาหรืออีกชื่อคือ สันปันน้ำของเทือกเขาพนมดงรัก และเทือกเขาบรรทัด ก็อย่าให้มีคนไปเพ่นพ่าน ทหารของทั้งสองฝ่ายอยู่ที่ตีนเขาก็พอแล้ว จะได้ไม่ต้องเจอกัน เพราะประเดี๋ยวอารมณ์เสียก็จะยิงกันอีกจนกลายเป็นเรื่องใหญ่
4. พื้นที่ราบภาคกลางหมุดที่ 50-60 หากพอทำเป็นคลองยาวๆได้ก็ควรทำ หากระดับมันต่างกันบ้างก็ทำเป็นประตูน้ำเสีย บริเวณไหนทำคูไม่ได้ ก็ทำเป็นถนน
5. กรณีเมืองติดกันเช่น เมืองปอยเปต ก็ทำรั้วแบบที่กำลังทำกันอยู่ เพราะบริเวณนี้มีผู้คนพลุกพล่าน
6. ปราสาทต่างๆซึ่งเป็นของไทยก็อย่าปิดตาย กรมศิลปากรรีบไปบูรณะเสีย สำหรับบริเวณโดยรอบ ก็ถางให้เตียนประมาณ 30-50ไร่ ก็พอ จะได้ไม่มีใครไปแอบซ่อนได้อีก และหากฝ่ายเขมรเขาจะขอมาคารวะก็ควรยอม ส่วนการดูแลก็ให้กรมศิลปากรและกรมอุทยานฯ ดูแล เพราะเป็นทั้งอุทยานประวัติศาสตร์และอุทยานทางธรรมชาติตามกฏหมายไทยอยู่แล้ว
7. กรณีบ้านหนองจานและหนองหญ้าแก้ว เมื่อยึดคืนมาแล้วก็อย่าเอาไปแจกใครเลยจะมีเรื่องเปล่าๆ ทางทหารควรถือเอาไว้และหากเหมาะสมก็ทำเป็นค่าย ตชด. หรือทหารพรานเสียเลย
สุดท้ายก็อยากถือวิสาสะ ฝากถึงคุณฮุนเซนและบุตรชาย พวกท่านพอเถอะครับ อย่าได้พยายามสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้ไทยและเขมรต้องเป็นชาติศัตรูถาวรกันเลย เพราะถ้าท่านคิดแบบนั้น คนไทยบางคนแม้แต่ผมก็มีสิทธิ์คิดจะยึดคืนกัมพูชาทั้งประเทศก็ยังได้ เพราะบรรพบุรุษผมถึง 2 รุ่น ก็เคยคิดและเคยทำมาแล้ว
Advertisement